ข้าวแห้ง

27 ม.ค. 2567 | 11:58 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2567 | 12:01 น.

ข้าวแห้ง คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

ข้าวแห้งนี้มีโอกาสรับประทานครั้งแรกที่หน้าวัดหลวงพ่อบ้านแหลม แขวงเมืองแม่กลอง เปนความแม่กลองที่ห้ามสับสนในชื่อนามกรขององค์หลวงพ่อพระประธานผู้ศักดิ์สิทธิ์
 
แต่เดิมทีชาวบ้านแลคหบดี ผู้เคร่งครัดในแบบธรรมเนียมพากันตอกย้ำในมารยาทจรรยาว่า หลวงพ่อบ้านแหลมน่ะมี แต่วัดบ้านแหลมไม่มี!
 
ด้วยเหตุที่ว่าบ้านแหลมเปนอีกเมืองหนึ่ง (ล่าสุดเป็นอำเภอในสังกัดของจังหวัดเพชรบุรี) หลวงพ่อเองเป็นรูปพระปฏิมายืนอุ้มบาตรขนาดเท่าตัวคนจริงลอยน้ำมา ชาวบ้านบ้านแหลมเป็นผู้พบเห็นท่านเป็นกลุ่มแรก พยายามจะนิมนต์ท่านโดยคล้องเชือกชักพระขึ้นบนบก ก็ไม่สำเร็จ ชั่วแต่อาศัยความมานะพยายามบากบั่น ติดตามหลวงพ่อซึ่งยังคงลอยน้ำไปเรื่อยไม่หยุด จนมาถึงท่าน้ำแขวงเมืองแม่กลองสมุทรสงคราม ท่านหยุดอยู่ตรงนั้นชาวบ้านแม่กลองพร้อมใจกันกับชาวบ้านบ้านแหลม อาราธนาชักพระนิมนต์ท่านขึ้นบกได้สำเร็จ จึงสร้างประรำถวายท่านไว้ตรงนั้น
 

ผู้ดีแม่กลองแต่โบราณนั้นท่านไม่คิดเอาเครดิตชักพระเข้าไว้ที่ตน ให้เกียรติชาวบ้านแหลมผู้ซึ่งเป็นผู้ได้พบองค์หลวงพ่อก่อน ตกลงใจเรียกพระปฏิมาสำคัญลอยน้ำองค์นี้ว่าหลวงพ่อบ้านแหลม ส่วนปะรำพลับพลาที่ทำนั้นเมื่อประดิษฐานพัทธสีมาเป็นอาราม ก็ขนานนามว่าต่อว่าวัดเพชรสมุทร (วรวิหาร) นัยยะว่าเพชรจากเพชรบุรี สมุทรจากสมุทรสงคราม มารวมกัน บ่งบอกความสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องพุทธศาสนิกชนชาวลุ่มน้ำเค็ม แม่กลอง-บ้านเเหลม
 
ท่านในยุคนั้นเรียนขานพระปฏิมาศักดิ์สิทธิ์นี้ว่า ‘คุณพ่อบ้านแหลม’ ซึ่งมีคาถาสำคัญจารจารึกไว้ที่มืออุ้มบาตรแห่งท่านทั้งสองข้างว่า “นะ มะ ระ อะ” กับ “นะ เท วะ อะ” ให้พระสงฆ์เจ้าพิธีทำน้ำมนต์ช่วยระงับโรคอหิวาห์ห่าระบาดได้ชะงัดนัก
 
ข้าวแห้งหน้าวัดหลวงพ่อ เขามีเครื่องเยอะ ทั้งแห้งเป็ดแห้งปลาต่างๆ ก็เข้าใจในอารมณ์ ของคนผู้บริโภคแต่ข้าวต้มแล้วมันเฝือ เฝือที่ทั้งข้าวบานไปมั่ง ตักกินแล้วโดนแต่น้ำมั่ง และบางทีมันก็น่าเบื่อเกินไป

ข้าวแห้งตำรับทางบ้านบึง แขวงเมืองชลบุรี อันนี้เขาใส่ไข่ลงไปคั่วกับเครื่องเสียก่อน บางเจ้าเดาะข่าป่นคั่วกับเกลือลงไปช่วยชูรสให้หอมให้ซ่าลงไปเสียด้วย
 
ข้างผู้การเป้ง เจ้าของร้าน สนั่นเบเกอรี่ สนั่นข้าวต้มปลา ทำข้าวแห้งได้เอร็ดอร่อยโอชา ผู้การเปนคนให้ความสำคัญกับเมล็ดข้าว ข้าวท่านเม็ดสวย เหนียวยางบ้างพอเคี้ยวดี ประโคมใส่ลงมาให้ในชามข้าวแห้ง เกือบหมดทั้งทะเลทั้งกุ้งหอยหมึกปลาหมูบะเต็ง ก่อนจะประกาศศักดา ด้วยกระเทียมเจียวที่เจียวในน้ำมันหมู มาพร้อมกากหมูชิ้นโตๆหอมกรอบ แล้วโรยใบขึ้นช่ายสับ ให้เรารับประทานกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวยำรสคมบาด บีบน้ำมะนาว 
 
ที่ภูเก็ตนอกจากร้าน โกเบ๊นที่เมื่อก่อนนี้รับประทานกันตอนตีสองโดยผู้คน เข้าแถวยัดเยียดกันอย่างกับแย่งเก้าอี้ดนตรี ยังคงมีร้านสำคัญทำข้าวแห้งรสอร่อย ใส่ของทะเลสดๆรสชาติไม่เเรง แอบอยู่ตรงตลาดนาคา ชื่อว่า ข้าวต้มปลาแถวน้ำ ให้บริการมานานเน 


 
มาดึกๆมึนๆหัว ขอท่านลองสั่งราวท้องปลากระพงต้มยำน้ำใสมาซดสักโฮกให้สดชื่นกันก่อน แม้จะดูเหงาๆแต่รสชาติเขายังคงเดิม ต้มราวท้องปลาพงใส่ขมิ้นใบกะเพรา! ฉุนหอมเปรี้ยวเค็มเผ็ดครบรส จากนั้นจึงเหมาะแก่การว่าการ ข้าวแห้ง มาเรียงเม็ดลงกระเพาะ
 
ข้าวแห้งแถวน้ำนี้สุ่มปลากระพงชิ้นโตๆมาให้พูนชาม ทับด้วยหมูกรอบทำสามชั้นหั่นหนาๆ ขยุ้มขิงอ่อนซอยมาให้ โรยกระเทียมเจียวน้ำมัน และโรยกากหมูติดหนังเจียวกรอบมาให้ ก่อนจะใส่ขึ้นช่ายสับ วางน้ำจิ้มคู่มาให้ทั้งอย่างเต้าเจี้ยวยำและอย่างพริกลอยน้ำปลา รับประทานอร่อยนัก ราคาก็ไม่แพง
 
กับข้าวอย่างชาวข้าวต้มยังมีอีกมาก ทั้งต้มผัดแกงทอด โกวเนี้ยะเจ้าของร้านลงมือทำครัวเองทุกๆจาน แถมว่าง่วงเหงาอ่อนเพลียจากการเดินทาง โกวเนี้ยะยังมีโรงแรม 3 ดาวเศษ สร้างใหม่ๆไว้บริการอีกด้วย ผู้คนทางใต้นี้ชอบสะสมความมั่งคั่งจากกิจการแห่งตนแล้วขยับไปทำโรงแรม เสียจริงเลย