กาลเทศะการสื่อสาร ในธุรกิจครอบครัว

30 ม.ค. 2565 | 06:27 น.

Designing Your Family Business รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจครอบครัวเกือบทั้งหมดจะกล่าวถึงความสำคัญของการสื่อสารในธุรกิจครอบครัวเอาไว้ การสื่อสารในธุรกิจครอบครัวนั้นเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ (Collapsible Factors) คือถ้าขาดไปหรือไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือความขาดประสิทธิภาพอันนำไปสู่ความล้มเหลวในการบริหารธุรกิจครอบครัว ดังนั้นจึงแนะนำแนวทางปรับปรุงการสื่อสารในธุรกิจครอบครัวดังต่อไปนี้

 

รู้กาลเทศะ ง่ายๆ ก็คือเลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมในการสนทนา จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่สภาพแวดล้อมมีความสำคัญต่อทัศนคติและประสิทธิผลการทำงานของพนักงาน เช่นเดียวกับการสื่อสารในการทำงานที่การสนทนาควรจะเกิดขึ้นในที่ทำงานและปัญหาส่วนตัวควรคุยกันในเวลาที่ไม่ได้ทำงาน แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกีดกันไม่ให้การสนทนาทางธุรกิจล้ำไปในเวลาของครอบครัว แต่ควรฝึกตัวเองให้ทำการสนทนาที่จริงจังในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม โดยพิจารณาว่า

 

• ควรสนทนาในระหว่างเวลาทำงานหรือไม่

 

• เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสมาชิกในครอบครัวท่านอื่นหรือไม่

 

• ควรมีการประชุมครอบครัวอย่างเป็นทางการหรือไม่

ธุรกิจครอบครัว

นอกจากนี้ปัญหาหนึ่งที่ธุรกิจครอบครัวจำนวนมากต้องเผชิญคือการไม่มีเวลาคิดถึงปัญหาทางธุรกิจระยะยาว ด้วยเหตุนี้การสนทนาที่สำคัญเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจมักจึงเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เรื่องนี้แนะนำให้กำหนดโครงสร้างการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการในธุรกิจครอบครัวคือสภาครอบครัวหรือการประชุมคณะกรรมการครอบครัวโดยกำหนดช่วงเวลาเพื่อหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ระยะยาว ขณะที่การพักผ่อนกับครอบครัวเป็นอีกวิธีหนึ่งในการหลีกหนีจากธุรกิจและมุ่งความสนใจไปที่ภาพรวม

 

เลือกวิธีสื่อที่เหมาะสม การสื่อสารบางอย่างจำเป็นต้องเกิดขึ้นแบบเห็นหน้ากัน ขณะที่บางอย่างอาจใช้วิธีส่งผ่านทางอีเมล์ได้ ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในธุรกิจครอบครัวมัลติเจเนอเรชั่นคือสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ได้ทำงานในธุรกิจของครอบครัวอาจรู้สึกว่าถูกละเลยจากการสนทนาที่สำคัญ ดังนั้นวิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการทำให้คนรู้สึกถูกทอดทิ้งโดยไม่ได้ตั้งใจคือใช้การสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งที่ทำได้เพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องรับทราบเสมอ และจัดการประชุมแบบตัวต่อตัวกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักเป็นประจำหากจำเป็น

 

เข้าใจบทบาท ในธุรกิจทั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บทบาทของแต่ละคนค่อนข้างไม่เกี่ยวข้องกันและเข้าใจกันดี ผู้จัดการมีบทบาทที่ชัดเจน เช่นเดียวกับผู้บริหาร พนักงาน และคนอื่นๆ เมื่อผู้จัดการสื่อสารกับพนักงาน พวกเขามักจะไม่ต้องแสดงหลายบทบาท ขณะที่ธุรกิจครอบครัวแตกต่างออกไปมักต้องผสมผสานบทบาทส่วนบุคคลและบทบาทในการทำงานในลักษณะที่ทำให้การสื่อสารซับซ้อนได้ เช่น สามีและภรรยาเป็นประธานและซีอีโอ ลูกคือผู้จัดการและพนักงาน

 

ขณะที่พนักงานที่ไม่ใช่คนครอบครัวอาจเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว แม้ว่าครอบครัวจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อแยกเวลาส่วนตัวและการทำงานออกจากกัน แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำกัดบทบาทที่แตกต่างกันเหล่านี้ไม่ให้ปะปนกัน เช่น เมื่อคุณพูดคุยกับพนักงานหรือหุ้นส่วน ต้องตระหนักว่ากำลังคุยกับใครอยู่ กำลังพูดกับสามีหรือภรรยา หรือกำลังพูดกับเพื่อนร่วมงาน ต้องไม่ลืมบทบาทของตนเมื่อพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว และพิจารณาให้แน่ใจว่าใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับบทบาทนั้น

 

ที่มา: Harland, D. December 2, 2020. The Art Of Communication In Family Firms. Available:https://familybusinessunited.com/2020/12/02/the-art-of-communication-in-family-firms/

 

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th

 

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,752 วันที่ 27 - 29 มกราคม พ.ศ. 2565