ลุ้นโอมิครอนเสี่ยง ฉุดเศรษฐกิจ

01 ม.ค. 2565 | 07:30 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ม.ค. 2565 | 01:06 น.

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ

เปิดศักราชใหม่ปี 2565 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน ที่กำลังรุมเร้าแพร่ระบาดไปในหลายพื้นที่ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จากโอมิครอนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งยังจะต้องรอลุ้นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด หลังจากผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว ว่าฉากทัศน์ ที่กระทรวงสาธารณสุข มองไว้กรณีดีที่สุด จะมีผู้ติดเชื้อจเพิ่มขึ้นราว 1 หมื่นคน จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
 

ที่ชัดเจนเวลานี้ ไวรัสโอมิครอน ได้กลายเป็นปัจจัยเสี่ยง หรือความกังวลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2565 แล้ว ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ต่างออกมาให้ความเห็น หากการแพร่ระบาดของไวรัสโฮมิครอนรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน จากที่คาดไว้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ราว 3.5-4% อาจจะต้องปรับลดลงมา เพราะเครื่องยนต์ในหลายๆ ตัวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาจจะสะดุด

ไม่ว่าภาคการท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายที่จะดึกนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 ได้สูงสุดได้ราว 15 ล้านคน สร้างเม็ดเงินราว 8 แสนล้านบาท อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ จากมาตรการเข้มงวดในการเปิดรับนักท่องเที่ยว และบางส่วนขาดความเชื่อมั่นหรือกังวลความปลอดภัยที่จะเข้ามา
 

รวมถึงการบริโภคภายในประเทศ ที่อาจจะชะลอตัว จากการแพร่ระบาด และราคาสินค้าที่จะปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบของต้นทุนการผลิต ที่มาจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และวัตถุดิบการผลิตที่มีราคาสูงขึ้น โดยมีสัญญาณเตือนมาจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยแล้ว เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กระทบต่อเม็ดเงินเข้าสู่ระบบลดน้อยลง 

อีกทั้ง ภาคการส่งออก จะยังต้องเผชิญปัญหากับความผันผวนของราคาน้ำมัน การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และค่าระวางเรือที่สูง จะส่งผลกระทบต่อภาคการขนส่งและภาคการผลิต ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันลดน้อยลง ส่งผลต่อการส่งออกลดลงได้ เป็นต้น
 

ภาคเอกชนเสนอว่า แนวทางที่จะรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อรักษาแรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจต่อจากปี 2564 ให้ได้ รัฐบาลจำเป็นต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะการกระตุ้นการจับจ่ายภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง มีการเติมกำลังซื้อให้กับประชาชน รวมถึง SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน 
 

ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2565 นี้ คงจะต้องจับตาดูกันต่อไป ว่าสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โอมิครอน จะทวีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโลกและของไทยแค่ไหน คงได้เห็นกันในไม่ช้านี้