ปรับเกณฑ์ วัคซีน 3 เข็ม รับมือ“โอมิครอน”

25 ธ.ค. 2564 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2564 | 00:05 น.
3.6 k

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ

แรงกระแทกการระบาดเชื้อโควิด-19 ทำเศรษฐกิจไทยปั่นป่วนตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี ทั้งการระบาดระลอก 2 จากคลัสเตอร์ตลาดกลางกุ้งมหาชัยในไตรมาสแรก พอเริ่มคลี่คลายเตรียมเที่ยวสงกรานต์ก็เจอคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ ที่ระบาดต่อเนื่องสู่สายพันธุ์เดลตา เป็นการระบาดหนักหน่วงยืดเยื้อ และเมื่อเปิดประเทศเตรียมกระตุ้นปลายปี ไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนก็โผล่มาเขย่าต่อ
 

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งสุดท้ายปี 2564 เมื่อ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5 % พร้อมปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ลงทั้งปีนี้ (2564) จากเดิม 0.9% เหลือ 0.7% และปีหน้า (2565) จากเดิมคาดจะโตได้ที่ 3.9% เหลือโต 3.4% หรือปรับลดลงถึง 0.5% หรือคิดเป็นความมั่งคั่งที่ลดลงเกือบ 8 แสนล้านบาท 
 

แม้กนง.จะชี้ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของธุรกิจหลายสาขา การใช้จ่ายในประเทศ และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว แต่ก็ระบุชัดเจนว่า การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในระยะข้างหน้า จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
 

นับเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของทางการองค์กรแรก ที่ประเมินผลกระทบของไวรัสกลายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่กำลังสร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก โดยประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนนี้ จะกระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2565 โดยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ ที่ผลกระทบอาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่าคาด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การระบาด และความเข้มงวดของมาตรการควบคุม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการจ้างงาน และรายได้แรงงานที่ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาf
 

ปฏิกิริยาโลกต่อการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่แตกต่างไปตามความรุนแรงของการระบาด ที่สหรัฐอเมริกาคนกลับมาติดเชื้อโควิด-19 ทะลุวันละ 1 แสนคน แต่ยังคงเดินหน้าเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพียงแต่เรียกร้องประชาชนเพิ่มการดูแลตนเอง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกที่สาธารณะ ในยุโรปกลับมาระบาดหนักบางประเทศกลับมาล็อกดาวน์และอาจเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลคริสต์มาสขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องเลิกจัดงานเคาท์ดาวน์ลดการเดินทางพบปะกัน 

ส่วนไทยล่าสุดนายกฯยืนยันคงจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตามเดิม แต่ให้เพิ่มความระมัดระวังและรักษามาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้น ควบคู่กับลดขนาดการเปิดประเทศ พักแนวทาง “Test&Go” ในการรับนักท่องเที่ยว ให้เหลือช่องทางผ่านแซนด์บ็อกซ์หรือการกักสังเกตอาการ (Quarantine) เพื่อลดความเสี่ยงการนำเข้าสายพนธุ์โอมิครอนมาระบาดในประเทศ
 

ในช่วงเฝ้าติดตามความรุนแรงเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน และเพิ่มความเข้มข้นมาตรการสกัดการระบาดไวรัสกลายพันธุ์ ไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาในประเทศไว้ให้นานที่สุด เพื่อเร่งระดมฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่รัฐควรประกาศให้เป็น “เกณฑ์มาตรฐาน” ใหม่ ให้ครอบคลุมภายในไตรมาส 1 ปี 2565 เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้คนไทยไว้รับมือโอมิครอน

 

ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3743 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 26-29 ธ.ค.2564