ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังส่งผลกระทบต่ออาณาจักรธุรกิจของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง "ลี กาชิง" หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเข้ายึดคลองปานามาเพื่อสกัดอิทธิพลจีนในเส้นทางเดินเรือสำคัญของโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลปานามาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน กำลังพิจารณายกเลิกสัญญากับบริษัทฮัทชิสัน พอร์ตส์ (Hutchison Ports PPC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CK Hutchison Holdings ที่บริหารท่าเรือสองแห่งริมคลองปานามา โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือเพื่อลดความตึงเครียดจากกรณีที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะเข้าไปจัดการกับอิทธิพลของจีนในเส้นทางน้ำสายสำคัญนี้
คลองปานามาถือเป็นเส้นทางเดินเรือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีสินค้าผ่านคลองนี้ถึง 75% ของปริมาณการขนส่งทั้งหมด ในปีงบประมาณ 2567 คลองปานามาสามารถสร้างรายได้เกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของปานามา
อาณาจักรธุรกิจของลี กาชิง มีรากฐานอันยาวนานในฮ่องกงตั้งแต่ยุค 1800s โดยเริ่มต้นจาก Hongkong and Whampoa Dock Company ที่ก่อตั้งในปี 1866 ในฐานะบริษัทจดทะเบียนหมายเลขหนึ่งของฮ่องกง เดิมให้บริการต่อเรือและซ่อมแซมเป็นเวลากว่า 100 ปี ก่อนขยายสู่ธุรกิจขนถ่ายสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ในปี 1969 ภายใต้การดำเนินงานของ Hongkong International Terminals Limited (HIT)
CK Hutchison Holdings ภายใต้การนำของลี กาชิง เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก มีรายได้ในปี 2023 สูงถึง 59,174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายประเภท ดังนี้
1. ธุรกิจท่าเรือของ CK Hutchison เติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่าน Hutchison Port Holdings Limited (Hutchison Ports) ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานท่าเรือ 53 แห่งใน 24 ประเทศ ครอบคลุมภูมิภาคสำคัญทั่วโลก ทั้ง เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา ออสตราเลเซีย ในปี 2023 Hutchison Ports มีปริมาณขนถ่ายสินค้ารวมสูงถึง 82.1 ล้าน TEU (Twenty-foot Equivalent Unit) สะท้อนให้เห็นถึงขนาดและความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก
2. ธุรกิจค้าปลีก เป็นเจ้าของ A.S. Watson Group ผู้ค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีร้านค้าปลีกกว่า 16,800 แห่งใน 30 ประเทศ จ้างพนักงานประมาณ 130,000 คน ครอบคลุมแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำหลายแบรนด์ เช่น Watsons, PARKnSHOP, FORTRESS ในยุโรป เป็นเจ้าของแบรนด์ค้าปลีกสุขภาพและความงามหลายแบรนด์ รวมถึง Kruidvat, Superdrug, Rossmann
3.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน CK Infrastructure Holdings Limited (CKI) เป็นบริษัทลูกที่ CK Hutchison ถือหุ้น 75.67% ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหลากหลายประเภท ทั้งด้าน พลังงาน การขนส่ง ระบบน้ำ การจัดการของเสีย การแปรรูปของเสียเป็นพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานครัวเรือน
4.ธุรกิจโทรคมนาคม ให้บริการลูกค้ากว่า 150 ล้านรายทั่วโลก ดำเนินงานเครือข่าย 3 ในหลายประเทศยุโรป รวมถึงอิตาลี สหราชอาณาจักร สวีเดน เดนมาร์ก ออสเตรีย และไอร์แลนด์ ถือหุ้นใหญ่ใน Hutchison Telecommunications Hong Kong Holdings Limited (HTHKH)
ในปี 2023 CK Hutchison รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มีรายได้รวม 59,174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ: 3,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรต่อหุ้น: 0.79 ดอลลาร์สหรัฐ
ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น บริษัทฮัทชิสัน พอร์ตส์ ได้แถลงว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในประเทศต่อไป และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างเต็มที่