คอนเทนต์ไทยมาแรง! กวาดรางวัลระดับโลก สร้างรายได้กว่า 2 พันล้าน

06 ก.พ. 2568 | 05:40 น.

คอนเทนต์ไทยมาแรง! ภาพยนตร์ ซีรีส์ แอนิเมชันสร้างชื่อเสียง “หลานม่า” กวาดรางวัลจากเวทีระดับนานาชาติ ผลักดันรายได้ รวมทะลุ 2,438 ล้านบาท

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า ในปี 2567 นับว่าเป็นปีทองของคอนเทนต์ไทยตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ และแอนิเมชัน ต่างเรียกกระแสความนิยม ได้รับความสนใจจากผู้ชมและสร้างความสำเร็จให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

และหากจะให้ไล่เรียงคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จคงไม่ครบถ้วน เพราะอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยนั้นเติบโตได้ด้วยคุณภาพและความหลากหลายที่ตอบโจทย์ผู้ชมได้ครบทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่คอนเทนต์แนวสยองขวัญ (Horror Film) ที่ครองแชมป์ความนิยมของผู้ชมชาวไทยมาโดยตลอด

ดร. ชาคริต พิชญางกูร

ฃแต่ความแรงของคอนเทนต์ไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีมาให้ชมกันหลากหลายรสชาติ ทั้งแนว คอมเมดี้ ดราม่า แอ็คชั่น  ที่ต่างก็ประสบความสำเร็จได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน

คอนเทนต์ Thai Style กับความสำเร็จระดับอินเตอร์

‘คอนเทนต์ไทย’ ไม่เพียงแต่ความนิยมและกระแสผู้ชมจากในประเทศเท่านั้น เพราะท่ามกลางการเติบโตและการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของคอนเทนต์จากทั่วโลก คอนเทนต์ไทยได้เฉิดฉายและสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลกมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นประเภทแอนิเมชั่นอย่าง องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ ที่รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 12 ภาพยนตร์แอนิเมชัน ให้เป็น Annecy Selections หมวด Annecy Presents จากงาน Annecy International Animation Film Festival ปี 2024 มาครอง

คอนเทนต์ไทยมาแรง! กวาดรางวัลระดับโลก สร้างรายได้กว่า 2 พันล้าน

ด้านประเภทซีรีส์อย่าง DELETE ก็คว้ารางวัลในงาน 29th  Asian Television Awards (ATA) งานประกาศรางวัลรายการโทรทัศน์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียมาถึง 2 รางวัล รวมถึง สืบสันดาน ที่กลายเป็นซีรีส์ไทยเรื่องแรกที่สามารถขึ้นครองอันดับ 1 บนชาร์ต Netflix Global Top 10 หมวดซีรีส์ภาษาต่างประเทศ (ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ)

รวมถึงครองอันดับ 1 ซีรีส์ที่มียอดรับชมสูงสุดใน 10 ประเทศ และกลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ในปี 2567 ภาพยนตร์ไทยทำรายได้รวมในประเทศกว่า 2,438 ล้านบาท โดยตลอดทั้งปีมีภาพยนตร์ที่สร้างความคึกคัก สีสันและความสนุกให้กับวงการมากมายอาทิ ธี่หยด2, วิมานหนาม, อนงค์, วัยหนุ่ม 2544

และล่าสุดกับปรากฎการณ์ หลานม่า ที่เดินสายกวาดรางวัลจากทั่วโลก อาทิ รางวัล Best Leading Actor (บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล), รางวัล Best Picture และรางวัล Best Original Screenplay ในงานประกาศรางวัล The 61st Asia Pacific Film Festival, รางวัล Audience Award จากเทศกาลภาพยนตร์ New York Asian Film Festival 2024

คอนเทนต์ไทยมาแรง! กวาดรางวัลระดับโลก สร้างรายได้กว่า 2 พันล้าน

รางวัล Honorable Mention ในสาขา Best Picture และ Best Performance in a Leading Role จากงาน Gold List Film 2025 ของสถาบัน Gold House, ได้รับการโหวตจากผู้ชมให้เป็น 1 ใน Best of Fest: Audience Favorites ของ 2025 Palm Springs International Film Festival และ คว้าอันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์เอเชีย และอันดับ 3 หนังที่ได้รับคะแนนสูงสุดจาก Letterboxd's 2024 Year in Review

ทั้งรางวัล รายได้ และกระแสการตอบรับอย่างล้นหลามของผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ตอกย้ำศักยภาพของบุคลากรไทยที่สามารถรังสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ผสานความคิดสร้างสรรค์ และการนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจและหลากหลาย ส่งผลให้คอนเทนต์ในแบบ Thai Style สามารถขยายฐานผู้ชมไปสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าทางอ้อมผ่านคอนเทนต์ไทย ตลอดจนสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจในภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น ฯลฯ อีกมากมาย

เติบโตพร้อมความท้าทาย ก้าวต่อไปของคอนเทนต์ไทยในปี 68

ความสำเร็จและการเติบโตย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย ทำให้ในปี 2568 อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยยังคงเผชิญกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการสร้างสรรค์และทำให้ต้องปรับตัวรับเทรนด์และความซับซ้อนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปัจจัยด้านเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาทักษะและเงินทุน ตลอดจนการแข่งขันกับคอนเทนต์ทั้งในประเทศและในระดับโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทรนด์ของสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมและสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย อย่างไรก็ตามแม้ว่าเทรนด์การรับชมจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เช่น การเปลี่ยนจากทีวีสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิง หรือการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการบริโภคคอนเทนต์แบบสั้น

แต่ความต้องการในการบริโภคคอนเทนต์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ผู้ชมยังคงมองหาคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความสนใจ และสร้างคุณค่าในเชิงอารมณ์หรือความรู้ สะท้อนให้เห็นว่า การผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยังคงเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมคอนเทนต์

และปัจจัยการแข่งขันต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยังผลักดนให้เหล่านักสร้างสรรค์คอนเทนต์ไทยได้แสดงศักยภาพ พัฒนาและสร้างสรรค์ผลงานให้สามารถทัดเทียมมาตรฐานในระดับสากลได้อีกด้วย

คอนเทนต์ไทยมาแรง! กวาดรางวัลระดับโลก สร้างรายได้กว่า 2 พันล้าน

ดร. ชาคริต พิชญางกูร กล่าวต่อว่า การเติบโตและการแข่งขันในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยไม่เพียงแต่ส่งผลดีและเสริมสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ให้กับอุตสาหกรรมคอนเทนต์หรือวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ยังส่งผลในการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับประเทศอีกด้วย 

CEA จึงมุ่งมั่นผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตในอนาคต โดยเน้นสร้างเครือข่ายบุคลากรและความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน สนับสนุนการเรียนรู้และเติบโตของบุคลการอย่างรอบด้าน ผ่านโครงการ ‘Content Lab 2025’ สร้างสรรค์คอนเทนต์ไทย ดันไกลสู่สากล ที่เตรียมเปิดให้เหล่านักสร้างสรรค์ได้เข้าร่วมและเดินหน้าผลักดันคอนเทนต์ไทยให้ก้าวสู่ระดับโลกไปพร้อมกัน