ปูตินเยือนปักกิ่ง จับมือสี จิ้นผิง แถลง "5 หลักการ" ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

17 พ.ค. 2567 | 10:27 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ค. 2567 | 10:46 น.

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เดินทางถึงกรุงปักกิ่งแล้ววานนี้ (16 พ.ค.) โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ให้การต้อนรับ หลังการพบปะเจรจา ผู้นำทั้งสองได้ร่วมพบปะสื่อมวลชนวันนี้ และแถลงถึงความสัมพันธ์ที่กระชับมั่นคง ด้วยหลักการ 5 ข้อที่ยึดมั่นตลอดมา

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวต้อนรับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างอบอุ่น พร้อมชี้ว่า การเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ของปธน.ปูติน ถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียอีก 1 สมัย และยังสะท้อนว่า ปธน.ปูตินและรัสเซียให้ความสำคัญกับ ความสัมพันธ์ทวิภาคีรัสเซีย-จีน อย่างมาก

ผู้นำทั้งสองได้ข้อสรุปจากการประชุมหารือฉันมิตรและจริงใจในหลายประเด็น โดยมีการทบทวนประสบการณ์ความสำเร็จในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียตลอด 75 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกที่มีต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี และประเด็นสำคัญอันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันในระดับนานาชาติและภูมิภาค และกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจีน-รัสเซียในทุกภาคส่วน

นอกจากนั้น ปธน.สีและปธน.ปูติน ยังลงนามและออกแถลงการณ์ร่วมจีนและรัสเซียว่าด้วยการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือในยุคใหม่ภายใต้บริบท วาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-รัสเซีย และเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสำคัญระหว่างรัฐบาลและระหว่างหน่วยงานหลายฉบับ ซึ่งจะอัดฉีดแรงกระตุ้นใหม่อันแข็งแกร่งสู่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย

ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวว่า ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นท่ามกลางคลื่นลมพายุ ขณะตั้งแต่เข้าสู่ยุคใหม่ มีการยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าว ส่งเสริมความร่วมมือเพิ่มเติม และกระชับมิตรภาพเก่าแก่ให้หยั่งรากลึกในใจของประชาชนสองประเทศยิ่งขึ้น โดยความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย กลายเป็นตัวอย่างอันดีของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบใหม่ รวมถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างสองประเทศใหญ่ ซึ่งความก้าวหน้าโดดเด่นของความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย เป็นผลจากทั้งสองประเทศยึดมั่น หลักการ 5 ข้อ ได้แก่

ประธานาธิบดีปูตินเดินทางถึงกรุงปักกิ่งวานนี้ (16 พ.ค.) ปีนี้ครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-รัสเซีย

 

หลักการข้อที่ 1

จีนและรัสเซียยึดมั่นการเคารพซึ่งกันและกันเป็นหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์และสนับสนุนผลประโยชน์หลักของอีกฝ่ายเสมอมา โดยประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่ากุญแจของสองประเทศในการแสวงหาวิถีทางใหม่ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่เป็นเพื่อนบ้านกันคือการเคารพซึ่งกันและกันและความเท่าเทียม รวมถึงการสนับสนุนประเด็นอันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์หลักและข้อวิตกกังวลของอีกฝ่าย นี่เป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือจีน-รัสเซียในยุคใหม่

จีนและรัสเซียจะเดินหน้ายึดมั่นหลักการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ปะทะคะคาน และไม่มุ่งเป้าไปยังบุคคลที่สาม ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองแบบสองทาง เคารพการเลือกวิถีทางการพัฒนาของอีกฝ่าย และบรรลุการพัฒนาและการฟื้นฟูด้วยแรงสนับสนุนจากอีกฝ่าย

การประชุมทวิภาคีจีน-รัสเซีย 16 พ.ค.2567 (ภาพข่าวซินหัว)

 

หลักการข้อที่ 2

จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เป็นพลังขับเคลื่อนความสัมพันธ์และเสริมสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของผลประโยชน์ร่วม โดยการค้าสองทางในปี 2023 สูงเกิน 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.66 ล้านล้านบาท) สูงขึ้นจากทศวรรษก่อนเกือบ 2.7 เท่า นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของความร่วมมือรอบด้านเพื่อผลประโยชน์ร่วมระหว่างสองประเทศ และประธานาธิบดีทั้งสองเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศต้องแสวงหาจุดที่ผลประโยชน์บรรจบกัน ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่เทียบเคียงกันได้ กระชับการบูรณาการผลประโยชน์ และช่วยให้อีกฝ่ายประสบผลสำเร็จ

จีนและรัสเซียต้องปรับปรุงโครงสร้างความร่วมมือเพิ่มเติม เสริมสร้างทิศทางอันดีของการค้าและความร่วมมือดั้งเดิมอื่นๆ สนับสนุนการจัดตั้งแพลตฟอร์มและเครือข่ายการวิจัยขั้นพื้นฐาน เดินหน้าปลดล็อกศักยภาพความร่วมมือแนวหน้า ยกระดับความร่วมมือด้านท่าด่าน การขนส่ง และโลจิสติกส์ และช่วยรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

ประธานาธิบดีทั้งสองได้กำหนดให้ปี 2024 และ 2025 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย

 

หลักการข้อที่ 3

จีนและรัสเซียยึดมั่นมิตรภาพเก่าแก่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์และสานต่อมิตรภาพจีน-รัสเซีย โดยทั้งจีนและรัสเซียมีประวัติศาสตร์เก่าแก่และวัฒนธรรมงดงาม ผลงานของพุชกินและตอลสตอยนั้นเป็นที่รู้จักดีในจีน ขณะที่อุปรากรปักกิ่งและมวยไทเก๊กนั้น เป็นที่ชื่นชอบของชาวรัสเซีย ทั้งสองประเทศกำลังขยับขยายสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน โดยมุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนงานความร่วมมือจีน-รัสเซียว่าด้วยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชนก่อนปี 2030

ประธานาธิบดีทั้งสองได้กำหนดให้ปี 2024 และ 2025 เป็นปีแห่งวัฒนธรรมจีน-รัสเซีย เสนอกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นรูปธรรม ใกล้ตัวประชาชน และเป็นที่นิยม พร้อมกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างภาคส่วนต่างๆ และระดับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันและความผูกพันระหว่างประชาชน

จีนจะสนับสนุนรัสเซียในการเป็นประธานกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS)ในปีนี้

 

หลักการข้อที่ 4

จีนและรัสเซียยึดมั่นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เป็นเสาค้ำจุนความสัมพันธ์และกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของธรรมาภิบาลโลก โดยทั้งสองประเทศมุ่งมั่นคุ้มครองระบบระหว่างประเทศอันมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลางและระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นฐานรับรอง จีนและรัสเซียร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนเวทีพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ เอเปก และจี20 พร้อมเดินหน้าระบบหลายขั้วอำนาจและโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจด้วยจิตวิญญาณแห่งพหุภาคีที่แท้จริง

จีนจะสนับสนุนรัสเซียในการเป็นประธานกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS)ในปีนี้ และรัสเซียจะสนับสนุนจีนในการเป็นประธานองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในปีนี้เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายจะร่วมสร้างความเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูงที่รอบด้าน ใกล้ชิด เป็นรูปธรรม และครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมสร้างความสามัคคีและความแข็งแกร่งของโลกใต้ (Global South)

ผู้นำทั้งสองออกแถลงการณ์ร่วมจีน-รัสเซีย ว่าด้วยการกระชับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านของความร่วมมือในยุคใหม่

 

หลักการข้อที่ 5

จีนและรัสเซียยึดมั่นความเป็นธรรมและความยุติธรรมเป็นเป้าประสงค์ของความสัมพันธ์และสนับสนุนการสร้างข้อตกลงทางการเมืองในประเด็นร้อน โดยยามแนวคิดสงครามเย็นยังไม่จางหาย และลัทธิกระทำฝ่ายเดียว ลัทธิอำนาจนำ การเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวก และการเมืองเชิงอำนาจคุกคามสันติภาพโลกและความมั่นคงของทุกประเทศ ประธานาธิบดีทั้งสองมองว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลถือเป็นเรื่องเร่งด่วน การดำเนินการตามมติของสหประชาชาติเป็นเรื่องจำเป็น และปัญหาปาเลสไตน์ต้องแก้ไขบนพื้นฐานแนวทางสองรัฐ

จีนและรัสเซียเชื่อว่าการสร้างข้อตกลงทางการเมืองเป็นวิถีทางอันถูกต้องของวิกฤตยูเครน โดยจุดยืนของจีนต่อประเด็นนี้ยังคงเดิมและชัดเจน ได้แก่ การยึดมั่นเจตจำนงและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ เคารพข้อคำนึงด้านความมั่นคงตามกฎหมายของทุกฝ่าย และสร้างสถาปัตยกรรมความมั่นคงใหม่ที่มีสมดุล ประสิทธิภาพ และยั่งยืน จีนหวังว่าสันติภาพและความมั่นคงจะกลับคืนสู่ทวีปยุโรปในเร็ววัน และพร้อมมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์เพื่อบรรลุสิ่งดังกล่าว

ปธน.สี จิ้นผิง ทิ้งท้ายว่า มิตรภาพเก่าแก่และความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีนและรัสเซียเป็นแรงผลักดันสองประเทศฟันฝ่าคลื่นลมพายุ โดยจีนและรัสเซียจะยังคงยึดมั่นเป้าประสงค์ตั้งต้นและร่วมกันแสดงความรับผิดชอบเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประชาชน รวมถึงมีส่วนส่งเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของโลกต่อไป