ทวิภาคี ไทย-ซาอุดีอาระเบีย พร้อมสานต่อ การค้า การลงทุน ความมั่นคง

20 ต.ค. 2566 | 20:46 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2566 | 20:56 น.

นายกฯ เศรษฐา หารือ ทวิภาคี ไทย-ซาอุดีอาระเบีย กับ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน พร้อมสานต่อความร่วมมือ และประเด็นที่คั่งค้างจากรัฐบาลเดิม ทั้ง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมทั้ง ความมั่นคง

วันนี้ (20 ต.ค. 2566) ณ โรงแรม Ritz Carlton กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสการหารือ ทวิภาคี ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม ASEAN – GCC Summit 

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีและ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย หารือประเด็นความร่วมมือดังนี้

ด้านความสัมพันธ์ 

ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการดำเนินความสัมพันธ์ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะควรส่งเสริมการค้าและการลงทุนซึ่ง นายกฯ เสนอการจัดทำ Thai-GCC FTA รวมทั้งแสดงการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ Expo 2030 จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงแนวทางความร่วมมือและประเด็นที่คั่งค้างในด้าน 

  1. การเมืองและการกงสุล
  2. การลงทุน
  3. ความมั่นคงและการทหาร
  4. วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
  5. เศรษฐกิจและการค้า 

โดยไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาความร่วมมือซาอุดีอาระเบีย - ไทย (Saudi – Thai Coordination Council: STCC) ครั้งที่ 1 เพื่อทบทวนการดำเนินความสัมพันธ์ และกำหนดแนวทางความร่วมมือทั้ง 5 ด้าน

 

นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย

ด้านความมั่นคง 

ทั้งสองฝ่ายพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง เพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการด้านการป้องกันประเทศของทั้งสองฝ่ายแล้วในงาน Defense and Security ของไทย และงาน World Defense Show ของซาอุดีอาระเบีย

ทำให้ไทยและซาอุดีอาระเบีย มีโอกาสขยายความร่วมมือในด้านความมั่นคงมากยิ่งขึ้น 
ทั้งนี้ ไทยจะให้ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เร่งรัดความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี และมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ต่างยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและซาอุดีอาระเบีย ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น 

 

นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย

โดย นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในวิสัยทัศน์ของพระราชาธิบดี รวมถึงมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีฯ ที่ทรงวางรากฐาน นำไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ

โดยไทยยืนยันมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้าน ต่าง ๆ ให้พัฒนายิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ประชาชนไทยและซาอุดีอาระเบีย

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ดูแลคนไทยกว่า 6,000 คน ที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกลักพาตัว ซึ่งซาอุดีอาระเบีย รับที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับกุมตัว”

 

นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูดมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย