ข่าวดี! Sabic ธุรกิจยักษ์ใหญ่ซาอุฯ เตรียมขยายลงทุนไทยเพิ่ม

11 มิ.ย. 2566 | 07:06 น.
999

ข่าวดีด้านการลงทุน หลัง “ดอน ปรมัตถ์วินัย” ยกคณะเยือนซาอุดีอาระเบีย สานต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และการต่างประเทศ โดยธุรกิจยักษ์ใหญ่ซาอุฯ ด้านภาคการเกษตร เตรียมขยายลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม

จากกรณีการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคี และส่งเสริมการเจรจาการค้าและการลงทุนระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ

ธุรกิจยักษ์ซาอุฯ พร้อมลงทุนเพิ่ม

ล่าสุด นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะของภาคเอกชนที่เดินทางร่วมคณะไปด้วย ระบุว่า ในด้านของความร่วมมือด้านภาคการเกษตร โดยเฉพาะการนำเข้าปุ๋ยของไทยจากซาอุฯ มีข่าวดี คือ Saudi Basic Industries Corporation (SABIC) บริษัทผลิตเคมีภัณฑ์และเหล็ก รายใหญ่ซาอุฯ แสดงความสนใจที่จะร่วมมือและขยายการลงทุนกับไทย

โดยเฉพาะการร่วมมือและขยายการลงทุนกับไทยในธุรกิจอื่นเพิ่มเติม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive), เคมีภัณฑ์, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และ ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ โดยที่ผ่านมาบริษัท SABIC มองว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่ดี และในช่วงการเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เมื่อปีที่บริษัทยังคงส่งปุ๋ยให้ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจปุ๋ยในไทยมากถึง 45%

 

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

ร่วมลงทุนไฮโดรเจนสีเขียว

ขณะที่ความร่วมมือด้านพลังงาน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR อยู่ระหว่างการพิจารณาตั้งสถานีบริหารน้ำมันในซาอุฯ เนื่องจากสถานบริการน้ำมันในปัจจุบันยังขาดความสะดวกอีกหลายอย่าง กลุ่มธุรกิจซาอุฯ จึงได้เชิญชวนให้ ปตท.มาเปิดสถานบริการน้ำมันพร้อมกับพื้นที่ค้าขายห้องน้ำที่เหมาะสมต่อการใช้งานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่นเดียวกับรูปแบบในไทย 

นอกจากนี้ ปตท. ยังอยู่ในระหว่างหารือการร่วมลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางในการเป็นซัพพลายให้อุตสาหกรรมต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งปัจจุบันสำเร็จระยะที่ 1 ไปแล้ว และจะเริ่มระยะที่ 2 ในเร็ว ๆ นี้

 

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

เอกชนไทยพร้อมลงทุนร่วมกัน

ขณะที่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (SCG) คาดว่าจะเปิด สำนักงานที่ซาอุฯ ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ และสนใจลงทุนในกลุ่มธุรกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขยายไปสู่ห่วงโซ่การผลิตในด้านอื่นๆในซาอุฯ เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และ PVC เป็นต้น

ส่วน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มีความสนใจและเห็นโอกาสในการทำธุรกิจเกี่ยวการพัฒนาด้านการเกษตร และไก่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับ Neom food company บริษัทในธุรกิจอาหารเพื่อลงทุนร่วมกันในอนาคต

รวมทั้ง บริษัท เฮลท์ แอนด์ เวลเนส เมเนจเมนท์ คอนซัลแทนท์ จำกัด ธุรกิจด้านสุขภาพ ได้ร่วมกับ Quality of Life Tourism Company ของซาอุฯ ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ 3 โครงการ ทั้งในซาอุฯ และไทย โดยมูลค่าการลงทุนรวมมากถึง 17,500 ล้านบาท

 

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

 

นายกฯ ประยุทธ์ ผลักดันความร่วมมือ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ผลักดันความร่วมมือทวิภาคีกับซาอุดีอาระเบียให้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ภายหลังการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ครอบคลุมทั้งด้านการทูต แรงงาน เศรษฐกิจ พลังงาน และการท่องเที่ยว 

“นายกรัฐมนตรี ยังคงผลักดันความร่วมมือทวิภาคีไทยและซาอุฯ ต่อเนื่อง ผ่านมติเห็นชอบกรอบความร่วมมือต่าง ๆ จากคณะรัฐมนตรี และการเดินทางเยือนซาอุฯ ของหน่วยงานรัฐบาล เพื่อติดตามความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยให้กำกับและติดตามขับเคลื่อนความร่วมมือ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ให้ครอบคลุมทุกด้าน”

ผลสำเร็จฟื้นฟูความสัมพันธ์

ทั้งนี้นับตั้งแต่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย ความสัมพันธ์ระว่างทั้งสองประเทศมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้น 37.64% มาอยู่ที่ 3.23 แสนล้านบาท 

ขณะที่การท่องเที่ยว ในปี 2565 นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีฯ มาไทย 96,389 คน สร้างรายได้ 8 พันล้านบาท ส่วนในปี 2566 ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวซาอุฯ เพิ่มขึ้น 150,000 คน สร้างรายได้ 12,000 ล้านบาท รวมถึงมีการเพิ่มเที่ยวบินจาก 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ 

 

การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้งคณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

 

นายอนุชา ระบุว่า ผลความสำเร็จดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่าง ๆ ผ่านมติเห็นชอบกรอบความร่วมมือต่าง ๆ จากคณะรัฐมนตรีแล้ว ดังนี้ 

ด้านการทูตและการต่างประเทศ 

มติ ครม.เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบการจัดทำแผนการขับเคลื่อนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีปี 2565 - 2567 รวมทั้งจัดตั้งสภาความร่วมมือไทย-ซาอุฯ ซึ่งจะประสานความร่วมมือทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม

นอกจากนี้ มติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ยังได้เห็นชอบการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต และหนังสือเดินทางราชการ รวมไม่เกิน 90 วัน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน

ด้านแรงงาน 

มติ ครม. เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เห็นชอบข้อตกลงด้านแรงงาน เพื่อจัดหาแรงงานไปทำงานในซาอุดีฯ อย่างถูกกฎหมาย และปกป้องสิทธิของนายจ้างและแรงงาน รวมถึงการบังคับใช้กฎระเบียบสัญญาจ้างระหว่างกัน

ด้านการค้าและการลงทุน 

มติ ครม. เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ได้เห็นชอบการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงและโอกาสทางธุรกิจ กฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนโดยตรง และการเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนของทั้งสองประเทศจาก

ด้านพลังงาน 

มติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบความร่วมมือทวิภาคีด้านพลังงาน อาทิ ปิโตรเลียม ก๊าซไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เพื่อลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ด้านการท่องเที่ยว 

มติ ครม. เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวไทย-ซาอุดีฯ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติการท่องเที่ยว จัดโปรแกรมการศึกษาและการวิจัย การประชุม สัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ