เงินเฟ้อศรีลังกาพุ่งจ่อแตะ 70% รอ IMF อนุมัติ 3 พันล้านดอลล์ฟื้นชีพเศรษฐกิจ

22 ก.ค. 2565 | 11:51 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ค. 2565 | 19:09 น.

แบงก์ชาติศรีลังกาคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 70% ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะเริ่มขยับลงในเดือนก.ย.ปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ยังไร้เสถียรภาพแม้จะมีนายรานิล วิกรมสิงเห ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แล้วก็ตาม

นายนันดาลัล วีระสิงห์ ผู้ว่าการ ธนาคารกลางศรีลังกา ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Street Signs Asia" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า ปัจจัยที่ทำให้คาดว่า อัตราเงินเฟ้อ ของ ศรีลังกา จะพุ่งขึ้นรุนแรงถึงระดับ 70% นั้น มาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น และเขาเชื่อว่าสถานการณ์ของศรีลังกาในขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่จะสามารถขอรับความช่วยเหลือด้านเงินกู้เพิ่มเติมจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แล้ว โดยจะเป็นความช่วยเหลือก้อนใหม่จำนวน 3,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี

 

ข้อมูลเศรษฐกิจของรัฐบาลศรีลังกายังชี้ว่า เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้นในอัตรา 45.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี นับว่าพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในเดือนเม.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 33.8% ขณะที่เงินเฟ้อที่คำนวณจากราคาอาหารพุ่งขึ้น 58% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 45.1% ในเดือนเม.ย.

 

นายวีระสิงห์กล่าวว่า ทันทีที่ IMF เริ่มอนุมัติการเบิกจ่ายเงินภายใต้โครงการกู้ยืมครั้งที่ 17 ให้กับศรีลังกา สถาบันการเงินอื่น ๆ เช่นธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ก็จะสมทบทุนช่วยเหลือศรีลังกาเพิ่มอีก 4,000 ล้านดอลลาร์

ผู้ว่าแบงก์ชาติศรีลังกายังกล่าวในช่วงท้ายว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับศรีลังกาในขณะนี้ นับเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต และจะยังคงเดินหน้าการปฏิรูปต่อไปแม้โครงการช่วยเหลือจาก IMF สิ้นสุดลง

 

นายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกา

ด้าน นายรานิล วิกรมสิงเห ที่สละตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกาเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) แทนนายโคตาบายา ราชปักษา ที่หลบหนีลี้ภัยการเมืองออกนอกประเทศไปแล้วนั้น  ในฐานะผู้นำคนใหม่ เขาได้สั่งกองทัพศรีลังกาให้บุกรื้อแคมป์ผู้ประท้วงต้านรัฐบาลที่ปักหลักอยู่บริเวณทำเนียบประธานาธิบดีเช้าวันนี้ (22 ก.ค.)

 

สื่อรายงานว่า กองทัพศรีลังกาได้บุกรื้อแคมป์ที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงโคลัมโบเช้านี้ หลังนายวิกรมสิงเหออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) เรียกร้องให้กองทัพเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยในหลายเขตของประเทศตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป

 

แอมเนสตี้ หรือองค์การนิรโทษกรรมสากลประจำภูมิภาคเอเชียใต้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "เราได้รับรายงานว่า โกตาโกกามา (Gotagogama) ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมประท้วงอย่างสงบในกรุงโคลัมโบของศรีลังกา ได้ถูกตำรวจและทหารบุกรื้อในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (22 ก.ค.) หลังจากที่ถูกปิดล้อมและจับกุมตัวผู้ประท้วง"

กองทัพส่งกำลังพลเข้าเคลียร์ ขอคืนพื้นที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดี จากกลุ่มผู้ชุมนุมเช้านี้ (22 ก.ค.)

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สมาชิกรัฐสภาศรีลังกาลงมติให้นายวิกรมสิงเหขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่เพราะพวกเขาหวังว่าประสบการณ์อันยาวนานในรัฐบาลของนายวิกรมสิงเห จะช่วยนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองที่เลวร้ายครั้งนี้ไปได้

 

นายวิกรมสิงเหได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกา ผ่านกระบวนการลงคะแนนเสียงในรัฐสภาเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) โดยเขาได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 134 เสียง จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 225 คน

 

เจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดีศรีลังการะบุว่า นายวิกรมสิงเหจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเขากล่าวเชิญทุกพรรคการเมืองมาทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะวิกฤตเศรษฐกิจ และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหม่ในศรีลังกา

 

ขณะเดียวกัน กองทหารและตำรวจหน่วยคอมมานโดติดอาวุธปราบจลาจล ได้บุกเข้ารื้อถอนค่ายผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลราว 2-3 ร้อยคน ที่ตั้งกีดขวางทางเข้า-ออกทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเล มีแกนนำหลายคนถูกจับกุมหลังการบุกครั้งนี้ด้วย

 

นายวิกรมสิงเหกล่าวว่า เขาจะดำเนินการรุนแรงกับผู้ประท้วง โดยเตือนแล้วว่าการครอบครองอาคารของรัฐเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และพวกเขาจะต้องถูกขับไล่ เว้นแต่จะให้ความร่วมมือด้วยการออกไปด้วยตัวเอง