เซี่ยงไฮ้แปลงศูนย์ประชุมฯเป็น รพ.ชั่วคราวรองรับผู้ป่วยโควิด 4 หมื่นเตียง!

สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของจีน กำลังเร่งปรับเปลี่ยน ศูนย์การประชุมและนิทรรศการแห่งชาติ (NECC) ให้กลายเป็น โรงพยาบาลชั่วคราว ที่จะมีเตียงรองรับ ผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 40,000 เตียง ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ ก็จะเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ขนาดใหญ่ที่สุดของนครเซี่ยงไฮ้

ศูนย์ประชุม NECC แห่งนี้ มีห้องโถงนิทรรศการ 8 ห้อง และครอบคลุมพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 1.47 ล้านตารางเมตร อีกลักษณะที่โดดเด่นคือ แผนผังอาคารรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกอันเป็นมงคล และเคยเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) จำนวน 4 ครั้งแล้ว

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในมหานครเซี่ยงไฮ้ขณะนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก โดยคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ติดเชื้อในท้องถิ่นจำนวน 311 ราย และผู้ป่วยไม่แสดงอาการจำนวน 16,766 ราย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (5 เม.ย.)

ให้ความสำคัญ “แพทย์แผนจีน” ช่วยรักษาผู้ป่วย

นอกจากนี้ รัฐบาลเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า แพทย์แผนจีน (TCM) มีบทบาทเชิงบวกในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ดังนั้น บรรดาโรงพยาบาลชั่วคราวจะยังคงใช้ประโยชน์จากแพทย์แผนจีนต่อไป

นายฟาง หมิ่น ประธานโรงพยาบาลสู่กวงในนครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า อัตราการใช้แพทย์แผนจีนรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้สูงกว่า 98% โดยข้อมูลทางคลินิกเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าแพทย์แผนจีนมีข้อได้เปรียบเฉพาะตัวในการเร่งอัตราฟื้นตัวและยับยั้งไม่ให้อาการป่วยย่ำแย่ลง

การประชุมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าด้วยการประเมินแพทย์แผนจีนในการรักษาโรคโควิด-19 ระบุว่าข้อมูลที่มีแนวโน้มดีแสดงให้เห็นว่าแพทย์แผนจีนมีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงเกิดอาการป่วยรุนแรงในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง

ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้แจกจ่ายยาแพทย์แผนจีนให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองมากกว่า 21 ล้านชุดแล้ว เมื่อนับถึงวันอังคาร (5 เม.ย.)

ระดมบุคลากรการแพทย์นับหมื่น เข้ากู้สถานการณ์โควิดเซี่ยงไฮ้

เมื่อต้นสัปดาห์ รัฐบาลจีนได้ส่งหน่วยแพทย์ทหารประมาณ 2,000 คน และบุคลากรทางการแพทย์ ของกระทรวงสาธารณสุขจีนอีกนับหมื่นชีวิต เข้าไปกู้สถานการณ์โควิด-19 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ภายใต้ภาวะล็อกดาวน์ เนื่องจากจำเป็นต้องวิเคราะห์ผลการตรวจโควิด-19 จำนวนมากอย่างรวดเร็ว และทุบสถิติจำนวนผู้ป่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4 วันติดต่อกัน

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission: NHC) รายงานว่า เซี่ยงไฮ้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 13,354 ราย และเริ่มล็อกดาวน์แบบเป็นขั้นตอนครั้งละครึ่งเมืองตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา

มาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ในภายหลังในพื้นที่ทางตะวันตกของเมือง เดิมทีจะถูกยกเลิกในวันอังคารที่ผ่านมา (5 เม.ย.) เวลา 03.00 น. แต่เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า มาตรการควบคุมที่กำหนดให้ผู้คนต้องอยู่แต่ภายในบ้านจะยังคงดำเนินการต่อไป "อย่างเคร่งครัด" จนกว่าการตรวจหาโควิด-19 จะทดสอบเสร็จสมบูรณ์

ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของเซี่ยงไฮ้ยังคงถูกล็อกดาวน์ แม้ว่าตอนแรกจะมีกำหนดให้สิ้นสุดลงในวันศุกร์นี้ (8 เม.ย.) ก็ตาม