จีนปิด “เซี่ยงไฮ้” ตีโควิด ล็อกดาวน์ 7 วัน ตรวจเชื้อ 26 ล้านคน

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศ มาตรการล็อกดาวน์ แบบเป็นลำดับขั้น และเริ่ม การตรวจคัดกรองเชิงรุก กับประชาชนในเขตตะวันออกและใต้ของแม่น้ำหวงผู่ ระหว่างเวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มี.ค. จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย. จากนั้น ระหว่างเวลา 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 1 เม.ย. จนถึงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 3 เม.ย. จะเป็นมาตรการแบบเดียวกัน สำหรับประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในเขตส่วนที่เหลือทั้งหมดของ นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรวมเบ็ดเสร็จแล้วมีประชากร 26 ล้านคน

ทั้งนี้ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ตรวจพบและยืนยันยอดผู้ป่วยโควิด-19 แบบมีอาการ 50 คน และผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการอีก 3,450 คน นับเป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่สำหรับมหานครแห่งนี้ ส่วนสถิติรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งประเทศของจีนประจำวันที่ 28 มี.ค. นั้น คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ ( เอ็นเอชซี ) ยืนยันสถิติผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 144,515 คน เพิ่มขึ้น 1,275 คน (แบบมีอาการ) และยังมีผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการอีก 5,134 คนส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิดอย่างน้อย 4,636 ราย

สถานการณ์ล็อกดาวน์ดังกล่าว ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตเช่นกัน ยกตัวอย่างกรณี บริษัท เทสลา ซึ่งเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานขนาดใหญ่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเซี่ยงไฮ้ จำเป็นต้องประกาศปิดโรงงานในวันนี้ (28 มี.ค.) หลังรัฐบาลสั่งล็อกดาวน์ 1 สัปดาห์

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า เทสลาจะระงับการผลิตในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้อย่างน้อยเป็นเวลา 1 วัน และทางบริษัทยังไม่ได้แจ้งพนักงานว่าจะขยายเวลาระงับการผลิตต่อไปอีกหรือไม่

ทั้งนี้ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ประกาศว่า บริษัทและโรงงานทุกแห่งต้องระงับการผลิตหรือทำงานจากที่บ้านในช่วงการล็อกดาวน์ครั้งนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งตะวันออก ทางใต้ และฝั่งตะวันตกของลุ่มแม่น้ำหวงผู่

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค. เทสลาเคยระงับการผลิตที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้เป็นเวลา 2 วันมาครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศยกระดับการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด ซึ่งนับจากนั้นมา เทสลาประกาศว่าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเดินสายการผลิตต่อไป