'ไดสัน' บริษัทนวัตกรรมอังกฤษ เลือก 'สิงคโปร์' เป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

26 ต.ค. 2561 | 17:45 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2561 | 22:39 น.
611
"ไดสัน" (Dyson) บริษัทด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีจากอังกฤษ เลือก "สิงคโปร์" เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน โดยการก่อสร้างโรงงานผลิตจะเริ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. นี้ และคาดว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทจะพร้อมออกสู่ตลาดในปี 2564

นายจิม โรแวน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไดสัน ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานพัดลมไร้ใบพัดและเครื่องดูดฝุ่นไร้สายพลังแรง ได้ออกแถลงแผนงานเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา บริษัทกำลังจะก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 และจะนำรถเข้าสู่ตลาดในปี 2564 ตามที่ได้วางแผนเอาไว้

 

[caption id="attachment_338357" align="aligncenter" width="503"] เซอร์ เจมส์ ไดสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทไดสัน (Dyson) เจ้าแห่งนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจากประเทศอังกฤษ กับผลงานพัดลมไร้ใบพัด และเครื่องดูดฝุ่นพลังไซโคลนแบบไร้สาย ก้าวต่อไปคือรถยนต์ไฟฟ้า ที่เลือกสิงคโปรฺ์เป็นฐานการผลิต เซอร์ เจมส์ ไดสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทไดสัน (Dyson) เจ้าแห่งนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจากประเทศอังกฤษ กับผลงานพัดลมไร้ใบพัด และเครื่องดูดฝุ่นพลังไซโคลนแบบไร้สาย ก้าวต่อไปคือรถยนต์ไฟฟ้า ที่เลือกสิงคโปรฺ์เป็นฐานการผลิต[/caption]

สำหรับเหตุผลที่เลือกสิงคโปร์เป็นฐานการผลิตนั้น ซีอีโอของไดสัน ระบุว่า พิจารณาจากซัพพลายเชนที่ครอบคลุม ช่องทางการเข้าถึงตลาด และบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงตลาดที่มีโอกาสขยายตัวสูง ปัจจุบัน ไดสันมีการจ้างงานบุคลากรในประเทศสิงคโปร์อยู่แล้วราว 1,100 คน นอกจากนี้ ยังมีโรงงานประกอบชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์อยู่แล้วใน 3 ประเทศของอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์

แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่ไดสันก็ซุ่มพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา บริษัทประกาศแผนจะใช้พื้นที่ที่เคยเป็นสนามบินในเมืองวิลท์เชียร์ ประเทศอังกฤษ เป็นสนามสำหรับการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท นอกจากนี้ ไดสันยังทุ่มงบ 84 ล้านปอนด์ จัดตั้งศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นที่อดีตสนามบินดังกล่าว และยังมีการดัดแปลงอาคารที่เคยใช้เป็นโรงเก็บเครื่องบิน 2 หลัง ให้เป็นฐานปฏิบัติการด้านวิศวกรรม สำหรับการลงทุนในโครงการขั้นที่ 2 นั้น จะทำให้เม็ดเงินลงทุนรวมขยับขึ้นไปสูงถึง 200 ล้านปอนด์ ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างสนามทดสอบรถระยะทางยาวมากกว่า 10 ไมล์ หรือกว่า 16 กิโลเมตร


e-book-1-503x62

090861-1927-9-335x503-8-335x503-9