ศิธาชี้"มีกรณ์ไม่มีกู" บทเรียนครั้งใหญ่ยันก้าวไกลทำถูกยกเลิกดีล ชทพ.

21 พ.ค. 2566 | 08:07 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2566 | 08:07 น.

ศิธาชี้"มีกรณ์ไม่มีกู" บทเรียนครั้งใหญ่ยันก้าวไกลทำถูกยกเลิกดีล ชทพ. ระบุการเมืองไทยกำลังก้าวกระโดดครั้งใหญ่ หากข้ามจุดนี้ไปได้ประเทศไทยก็จะพัฒนาก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ สามารถยืนแข่งขันบนเวทีโลกได้

น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีมีแฮชแท็ก #มีกรณ์ไม่มีกู ขึ้นในทวิตเตอร์ ว่า สถานการณ์ #มีกรณ์ไม่มีกู สอนให้มึงกะกู(เรา) รู้ว่า การเมืองในรูปแบบกองเชียร์กีฬา ที่มองว่าทีมที่ตัวเองเชียร์ ทำอะไรก็ถูกไปหมด คู่แข่งทำอะไรก็ผิดไปหมด กำลังจะหายไปจากการเมืองไทย
          
ปรากฏการณ์ #มีกรณ์ไม่มีกู คือการแทงสวนของประชาชน มองในแง่ดีพิสูจน์ให้เห็นถึงการเติบโตของพรรคการเมือง ว่ามาจาก UGC อันทรงพลังอย่างแท้จริง หรือโตมาจากการจัดตั้งไอโอ ในการปั่นสร้างกระแส แบบไม่จีรังยั่งยืน
          
ประสบการณ์ #มีกรณ์ไม่มีกู คือบทเรียนให้เรารู้ว่า พรรคการเมืองที่ข้ามไปถึง UGC ไม่ได้ ยังสู้กันอยู่ในกะลาไอโอ จ่ายมากได้น้อย หาได้แค่ไข่ต้ม ไข่พะโล้กินไปวันๆ จะค่อยๆ ล้มหายตายจาก พรรคเล็กลงไปเรื่อยๆ

ขอบคุณพรรคก้าวไกล(ก.ก.) แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลสำหรับการออกมา React อย่างทันท่วงที ด้วยการยกเลิกดีล, เอ่ยคำขอโทษ พร้อมกับวรรคทอง "พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค"
          
ขณะนี้เรามาถึงจุดที่วงการการเมืองไทย กำลังจะก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ถ้าเราข้ามจุดนี้ไปได้ ประเทศไทยก็จะพัฒนาก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ สามารถยืนแข่งขันบนเวทีโลกได้อีกครั้ง
          
กลับมาโฟกัส ใช้สมาธิ ร่วมกันเดินหน้าทำความเข้าใจกับส.ว.ให้ร่วมกับประชาชนในการจัดตั้งดรีมทีม สร้างรัฐบาลในฝัน และเตรียมสูดกลิ่นความเจริญไปด้วยกัน

กรณีดังกล่าวเกิดจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ก.ก.ได้เชิญพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ซึ่งมีนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค มาร่วมรัฐบาล แต่เกิดกระแสต่อต้านในโลกโซเชี่ยล พร้อมติดแฮชแท็ก #มีกรณ์ไม่มีกู อ้างเหตุผลหนึ่งคือนายกรณ์เคยร่วมการชุมนุม กปปส. ซึ่งถูกมองว่าเป็นสารตั้งต้นของทำรัฐประหาร จนก้าวไกล้มดีลชาติพัฒนากล้า