"ฐากร" ทวง "พรก.ไซเบอร์" ฉบับใหม่ แบงก์-มือถือ คืนเงินผู้เสียหาย

20 มี.ค. 2568 | 12:34 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มี.ค. 2568 | 12:42 น.

"ฐากร" ทวง "พรก.ไซเบอร์" ฉบับใหม่ แบงก์-มือถือ คืนเงินผู้เสียหายกำหนดให้แบงค์ ค่ายมือถือ คืนเงินผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังมีอยู่หรือไม่ หายเงียบไปนานแล้ว

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายหารือเกี่ยวกับร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พรก.ไซเบอร์ฉบับใหม่ (ฉบับแก้ไข พรก.ไซเบอร์ ปี 2566) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ ครั้งที่ 25 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แม้ว่าใน 1 เดือนที่ผ่านมาจะมีปริมาณของคดีและความเสียหายที่ลดลงเนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการตัดไฟ ตัดน้ำมันและตัดอินเตอร์เน็ตทั้งหมดตามรอยตะเข็บแนวชายแดนไทย

ซึ่งกรณีนี้ขอชื่นชมรัฐบาลที่ได้ใช้มาตรการเดินหน้าที่ถูกต้องแล้ว เพียงแต่ว่าในขณะนี้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับขยับเข้ามาเป็นปัญหาภายในเขตประเทศไทยแทน ดังนั้น จึงอยากฝากถามไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่ามาตรการที่จะออกร่าง พรก.ไซเบอร์ฉบับใหม่ ที่จะกำหนดให้ค่ายมือถือและธนาคารชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชนผู้เสียหายซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงนั้น ยังคงจะมีการออก พรก.ดังกล่าวมาประกาศใช้อยู่ต่อไปหรือไม่ ตนยังไม่เห็นความคืบหน้าในเรื่องนี้

นายฐากรกล่าวเพิ่มเติมภายหลังการประชุมรัฐสภา ว่าสำหรับร่าง พรก.ไซเบอร์ฉบับล่าสุด เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พรก.ไซเบอร์ พ.ศ. 2566 เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สาระสำคัญประการหนึ่ง คือกำหนดให้สถาบันการเงิน ธนาคาร และผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายจากภัยออนไลน์ หรือคืนเงินให้แก่ประชาชนผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดิมคาดว่าจะสามารถประกาศให้มีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 แต่ผ่านมาเกือบเดือนแล้วยังไม่เห็นมีอะไรออกมาจึงอยากฝากถามนายกรัฐมนตรีถึงเรื่องนี้ เพื่อจะได้แก้ปัญหาความเดือนดร้อนของประชาชนให้เร็ว 

ส่วนมาตรการของรัฐบาลในการตัดน้ำมัน ตัดไฟและอินเตอร์เน็ตดำเนินการมาครบ 1 เดือนแล้ว โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 (1 - 31 มกราคม 2568) มีการแจ้งความทั้งสิ้น 31,159 คดี หลังจากมาตรการตัดน้ำ-ตัดไฟ-ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2568 มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 25,487 คดี ลดลงเฉลี่ยประมาณ 20% และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่เดิมมีการรับแจ้งมากกว่า 1,000 คดีต่อวัน

โดยเฉพาะคดีคอลเซ็นเตอร์ที่มิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อได้ง่ายที่สุด ลดลงจากเดิมร้อยละ 67 ข้อมูลจาก AOC 1441 ยังพบว่าประชาชนที่โทรเข้ามามีจำนวนมูลค่าความเสียหายที่ลดลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ประมาณ 200 ล้านบาท และเมื่อเทียบมูลค่าความเสียหายในเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ปี 2567 เทียบกับปี 2568 แล้วพบว่าความเสียหายลดลงถึง 30%