เจาะความพิลึก แอปฯ Fineasy ดาวน์โหลด 100 ล้าน แต่คะแนนรีวิวต่ำเตี้ย?
เจาะลึก ความพิลึกของ แอปพลิเคชั่น Fineasy พบมียอดดาวน์โหลดทะลุ 100 ล้านครั้ง แต่กลับได้คะแนนรีวิวต่ำ เพราะถอนการติดตั้งไม่ได้ สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเยอะ แจ้งเตือนรบกวนไม่หยุด
เจาะลึกความพิลึกของ "Fineasy" แอปพลิเคชันกู้เงิน ที่กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรง
หลังจากเมื่อวันเด็กแห่งชาติ 11 มกราคม 2568 จู่ๆ "สภาองค์กรของผู้บริโภค" ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ในวงการสมาร์ตโฟน หลังมีรายงานพบว่า แอปพลิเคชัน “Fineasy” และ “สินเชื่อความสุข”
ถูกติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการในรูปแบบ System App บนสมาร์ตโฟน 2 ยี่ห้อ ได้แก่ OPPO และ realme ซึ่งสร้างความไม่พอใจในวงกว้าง
เนื่องจากผู้ใช้งานไม่สามารถลบแอปดังกล่าวออกได้ และยังพบว่าแอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รายชื่อผู้ติดต่อและเบอร์โทรศัพท์ โดยไม่ได้รับความยินยอม
Fineasy คืออะไร?
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูล แอปพลิเคชั่น จาก Google Play พบว่า Fineasy ให้บริการโดย OSFineasy วางจำหน่ายเมื่อ 15 ธันวาคม 2565 อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เป็นเวอร์ชั่น 2.10.73 ขนาดของแอปฯ 41.72MB สามารถใช้กับมือถือรุ่นเก่าได้ เพราะรองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 ขึ้นไป ซึ่งปัจจบันเป็นแอนดรอยด์ 15
คำอธิบายเกี่ยวกับแอปฯระบุว่า เป็นแอปพลิเคชัน ที่โฆษณาว่าช่วยผู้ใช้งานจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยฟีเจอร์ที่เน้นการให้คูปองส่วนลด บริการสนับสนุนทางการเงิน และการช่วยติดตามรายจ่าย
แต่ปัญหาคือแม้จะมียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 100,000,000 ครั้ง แต่คะแนนรีวิวเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 2.7 ดาว ซึ่งสะท้อนถึงปัญหามากมายที่ผู้ใช้งานเผชิญ
แอปพลิเคชัน Fineasy มีสิทธิ์การเข้าถึงอะไรบ้าง
สิทธิ์ทั่วไป
- ดูการเชื่อมต่อเครือข่าย
- ป้องกันไม่ให้โทรศัพท์เข้าโหมดสลีป
- เข้าถึง AdId API
- ดูการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- ใช้อุปกรณ์สำหรับลายนิ้วมือ
- แสดงการแจ้งเตือน
- รับข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
สิทธิ์การจัดการไฟล์
- อ่านไฟล์วิดีโอจากพื้นที่เก็บข้อมูลที่แชร์
- อ่านไฟล์ภาพจากพื้นที่เก็บข้อมูลที่แชร์
- แก้ไขหรือลบเนื้อหาในการ์ด SD ของคุณ
- อ่านเนื้อหาในการ์ด SD ของคุณ
สิทธิ์การควบคุมระบบ
- ควบคุมการสั่นเตือน
- จัดลำดับแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่
- เชื่อมต่อและหยุดเชื่อมต่อ Wi-Fi
- การเข้าถึงเครือข่ายเต็มรูปแบบ
- Play Install Referrer API
- เข้าถึง AdServices Attribution API
- ปิดคลุมแอปอื่น ๆ
สิทธิ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย
- สิทธิ์ในการรับรหัสโฆษณา
- เหตุการณ์เกี่ยวกับธุรกรรมในองค์กรประกอบความปลอดภัย
- ควบคุม Near Field Communication (NFC)
- เข้าถึง AdServices Topics API
สิทธิ์ชีวมิติ
- ใช้ฮาร์ดแวร์ชีวมิติ ฟังก์ชันเซ็นเซอร์ทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ
สิทธิ์ทั้งหมดนี้ทำให้ Fineasy สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและควบคุมบางฟังก์ชันของอุปกรณ์ได้
ปัญหาจากแอป Fineasy และเสียงสะท้อนจากผู้ใช้งาน
1. การติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ใช้งานหลายคนแสดงความไม่พอใจที่ Fineasy ถูกติดตั้งมาในเครื่องโดยไม่ได้รับความยินยอม และที่สำคัญ ไม่สามารถถอนการติดตั้งได้:
- “อยู่ดี ๆ แอปก็ติดตั้งมาเอง พอลบออกก็กลับมาติดตั้งใหม่”
- “ต้องใช้ Google หรือเครื่องมือพิเศษช่วยถึงจะลบได้”
2. การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว
แอป Fineasy ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น รายชื่อผู้ติดต่อและไฟล์ต่าง ๆ:
- “แอปนี้ขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์ ซึ่งน่ากลัวมาก”
- “เหมือนโดนละเมิดความเป็นส่วนตัว เพราะแอปนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้โดยที่เราไม่รู้ตัว”
3. ปัญหาจากการแจ้งเตือนและโฆษณากู้เงิน
ผู้ใช้งานบางรายรายงานว่าได้รับข้อความแจ้งเตือนให้กู้เงินอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ใช้งานแอป:
- “ข้อความแจ้งเตือนมาไม่หยุด บอกให้กู้เงินทุกวัน รำคาญมาก”
- “รู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ใช้งาน ทั้งที่ไม่ได้ต้องการ”
แถลงการณ์ขอโทษจาก OPPO และ realme
หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้ง OPPO และ realme ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษและยืนยันว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
OPPO: “OPPO ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดการปัญหา โดยจะเร่งให้ผู้ใช้งานสามารถถอนการติดตั้งแอป Fineasy ได้ในเร็วที่สุด”
realme: “realme ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และจะหยุดการติดตั้งแอปประเภทสินเชื่อในสมาร์ตโฟนรุ่นถัดไป รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน”
สภาองค์กรของผู้บริโภคเรียกร้องมาตรการแก้ไข
สภาองค์กรของผู้บริโภคเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.), และธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำ
พร้อมกับมีข้อแนะนำจากสภาผู้บริโภค ว่าหมั่นตรวจสอบแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ และหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ตโฟนที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รายงานปัญหาที่พบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรักษาข้อมูลส่วนตัวด้วยการตั้งค่าความปลอดภัยในโทรศัพท์ให้เหมาะสม