thansettakij
ทรูฯ สานภารกิจ“Tech For Good” ผสาน"5G-AI-กล้องวงจรปิด" แก้ขัดแย้งคน-ช้างป่า

ทรูฯ สานภารกิจ“Tech For Good” ผสาน"5G-AI-กล้องวงจรปิด" แก้ขัดแย้งคน-ช้างป่า

27 พ.ย. 2567 | 02:49 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ย. 2567 | 02:49 น.

ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าพัฒนา True Smart Early Warning System (TSEWS) เทคโนโลยีเครือข่าย 4G, 5G, AI และกล้องวงจรปิด แก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า นำร่องอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ก่อนวางแผนขยายผลสู่พื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดและทั่วประเทศในอนาคต

ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างเกิดขึ้นจากการลดลงของพื้นที่ป่า ทำให้แหล่งอาหารช้างป่าลดลง ส่งผลให้ช้างบุกรุกพื้นที่ชุมชน สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ข้อมูลจาก IFAW ระบุว่าในแต่ละปี ช้างป่ากว่า 200 ตัวในศรีลังกา และ 100 ตัวในอินเดียต้องสังเวยชีวิตจากความขัดแย้งนี้

ทรูฯ สานภารกิจ“Tech For Good” ผสาน\"5G-AI-กล้องวงจรปิด\" แก้ขัดแย้งคน-ช้างป่า

ขณะที่ประเทศไทยพบช้างป่าบุกพื้นที่ชุมชนกว่า 37,000 ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 227 รายในช่วง 12 ปี

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทรู คอร์ปอเรชั่นได้พัฒนาระบบ True Smart Early Warning System (TSEWS): โดยผสานเครือข่าย 4G, 5G, AI และ IoT เพื่อช่วยเฝ้าระวังช้างป่ากว่า 400 ตัวในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ด้วยการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพ (Camera Trap) พร้อมซิมเชื่อมต่อระบบ ส่งภาพและพิกัดแบบเรียลไทม์ไปยังระบบ Cloud  เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI  ก่อนแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ทันทีที่พบช้างบุกรุก   ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามและโดรน เร่งดำเนินการผลักดันช้างกลับป่า ลดความเสียหายต่อชุมชน   

“แนวคิด Tech For Good ของทรูคือการใช้เทคโนโลยีสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม โครงการ TSEWS เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างอย่างเป็นรูปธรรม และยังสามารถต่อยอดเพื่อเป็นโมเดลการแก้ปัญหาสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน”

ทรูฯ สานภารกิจ“Tech For Good” ผสาน\"5G-AI-กล้องวงจรปิด\" แก้ขัดแย้งคน-ช้างป่า

การทำงานของโซลูชัน True Smart Early Warning System (TSEWS) เฝ้าระวังช้างป่ากว่า 400 ตัวในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

•             นำเครือข่ายอัจฉริยะ 4G, 5G ผสานกับเทคโนโลยี AI  และอุปกรณ์ IoT พัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า

•             ติดตั้งกล้อง Camera Trap พร้อมซิม เชื่อต่อเครือข่าย เพื่อระบุพิกัด และแจ้งเหตุแบบเรียลไทม์

•             เมื่อกล้องตรวจจับพบช้างออกนอกบริเวณพื้นที่ป่า เริ่มบุกรุก ระบบส่งภาพช้างพร้อมพิกัดแจ้งเตือนไปยังระบบ Cloud

•             ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมแจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพร้อมโดรนเข้าตรวจสอบ

•             เจ้าหน้าที่ดำเนินการผลักดันช้างกลับเข้าป่า ลดความสูญเสีย

ทรูฯ สานภารกิจ“Tech For Good” ผสาน\"5G-AI-กล้องวงจรปิด\" แก้ขัดแย้งคน-ช้างป่า

โซลูชันอัจฉริยะ “True Smart Early Warning System (TSEWS)”: นวัตกรรมจาก Tech For Good เพื่อสังคมยั่งยืน" ด้วย 3 แนวคิดเชิงกลยุทธ์:

1. EMPATHY: เข้าใจชีวิต ใส่ใจทุกมิติ

พัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานความเข้าใจความต้องการของทุกชีวิต ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ผ่านมุมมองที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และการรับฟังความต้องการจากทุกชุมชน

2. INSIGHTS: พลังข้อมูล นำสู่การเปลี่ยนแปลง

ตัดสินใจบนพื้นฐานการวิเคราะห์ข้อมูลแบบองค์รวม โดยบูรณาการข้อมูลจากเครือข่ายพันธมิตรและชุมชน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตรงจุด

3. TECHNOLOGY: นวัตกรรมเพื่อทุกชีวิต

นำความเชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม ผสาน AI และ Big Data พัฒนาเป็นโซลูชันที่เข้าถึงได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ทรู คอร์ปอเรชั่น และพันธมิตรมีแผนขยายระบบ TSEWS ไปยังและขยายผลไปยังพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) และพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างทั่วประเทศ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ช้างป่าอย่างสมดุล สร้างความอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

ด้าน นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง (Human-Elephant Conflict: HEC) เป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องอาศัยการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน บริษัทเอกชน และชุมชนในพื้นที่

โดยกรมอุทยานฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และ WWF ประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการระบบเตือนภัยล่วงหน้าซึ่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยร่วมกับกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (Camera Trap) และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังช้างป่าในการผลักดันช้างให้กลับสู่ป่าอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ยังเน้นการปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมของชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศ เพื่อลดความสูญเสียทั้งต่อชุมชนและช้างป่า สร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน”

ตลอดระยะเวลา 7 ปีของการดำเนินงาน ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ True Smart Early Warning System (TSEWS) ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่หน่วยผลักดันช้างป่าอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุดในปี 2566 แม้พบเหตุการณ์ช้างป่าบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีถึง 1,104 ครั้ง แต่เกิดความเสียหายต่อพืชผลเพียง 4 ครั้ง หรือคิดเป็น 0.36% เท่านั้น นับเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2560 ก่อนการติดตั้งโซลูชันที่มีความเสียหายสูงถึง 74.5% สะท้อนให้เห็นว่าระบบแจ้งเตือน TSEWS นี้ ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่าและป้องกันความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพเกือบ 100%

สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่าภาพรวมของประเทศไทยประสบปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง (Human-Elephant Conflict: HEC) โดยพบว่าจำนวนช้างป่ามีอยู่ประมาณ 4,013-4,422 ตัว ซึ่งกระจายอยู่ใน 16 กลุ่มป่า 94 พื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ และแนวโน้มมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่พื้นที่ป่าอนุรักษ์มีขนาดเท่าเดิม ส่งผลให้ช้างออกหากินนอกเขตป่า

ทั้งนี้ สถิติ 3 ปีล่าสุด (2564-2566) พบช้างป่าออกนอกพื้นที่มากกว่า 37,000 ครั้ง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพืชผลเกษตรกรรวมกว่า 3,800 ครั้ง และที่น่าวิตกคือในช่วง 12 ปี (2555-2567) มีผู้เสียชีวิตถึง 227 ราย บาดเจ็บ 198 ราย จากการบุกรุกของช้างป่า สะท้อนให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างอย่างยั่งยืน

คลิป CEO True