ความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างเกิดขึ้นจากการลดลงของพื้นที่ป่า ทำให้แหล่งอาหารช้างป่าลดลง ส่งผลให้ช้างบุกรุกพื้นที่ชุมชน สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ข้อมูลจาก IFAW ระบุว่าในแต่ละปี ช้างป่ากว่า 200 ตัวในศรีลังกา และ 100 ตัวในอินเดียต้องสังเวยชีวิตจากความขัดแย้งนี้
ขณะที่ประเทศไทยพบช้างป่าบุกพื้นที่ชุมชนกว่า 37,000 ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 227 รายในช่วง 12 ปี
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทรู คอร์ปอเรชั่นได้พัฒนาระบบ True Smart Early Warning System (TSEWS): โดยผสานเครือข่าย 4G, 5G, AI และ IoT เพื่อช่วยเฝ้าระวังช้างป่ากว่า 400 ตัวในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ด้วยการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพ (Camera Trap) พร้อมซิมเชื่อมต่อระบบ ส่งภาพและพิกัดแบบเรียลไทม์ไปยังระบบ Cloud เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI ก่อนแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ทันทีที่พบช้างบุกรุก ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามและโดรน เร่งดำเนินการผลักดันช้างกลับป่า ลดความเสียหายต่อชุมชน
“แนวคิด Tech For Good ของทรูคือการใช้เทคโนโลยีสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม โครงการ TSEWS เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างอย่างเป็นรูปธรรม และยังสามารถต่อยอดเพื่อเป็นโมเดลการแก้ปัญหาสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกัน”
การทำงานของโซลูชัน True Smart Early Warning System (TSEWS) เฝ้าระวังช้างป่ากว่า 400 ตัวในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
• นำเครือข่ายอัจฉริยะ 4G, 5G ผสานกับเทคโนโลยี AI และอุปกรณ์ IoT พัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า
• ติดตั้งกล้อง Camera Trap พร้อมซิม เชื่อต่อเครือข่าย เพื่อระบุพิกัด และแจ้งเหตุแบบเรียลไทม์
• เมื่อกล้องตรวจจับพบช้างออกนอกบริเวณพื้นที่ป่า เริ่มบุกรุก ระบบส่งภาพช้างพร้อมพิกัดแจ้งเตือนไปยังระบบ Cloud
• ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมแจ้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพร้อมโดรนเข้าตรวจสอบ
• เจ้าหน้าที่ดำเนินการผลักดันช้างกลับเข้าป่า ลดความสูญเสีย
โซลูชันอัจฉริยะ “True Smart Early Warning System (TSEWS)”: นวัตกรรมจาก Tech For Good เพื่อสังคมยั่งยืน" ด้วย 3 แนวคิดเชิงกลยุทธ์:
1. EMPATHY: เข้าใจชีวิต ใส่ใจทุกมิติ
พัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานความเข้าใจความต้องการของทุกชีวิต ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ผ่านมุมมองที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และการรับฟังความต้องการจากทุกชุมชน
2. INSIGHTS: พลังข้อมูล นำสู่การเปลี่ยนแปลง
ตัดสินใจบนพื้นฐานการวิเคราะห์ข้อมูลแบบองค์รวม โดยบูรณาการข้อมูลจากเครือข่ายพันธมิตรและชุมชน เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตรงจุด
3. TECHNOLOGY: นวัตกรรมเพื่อทุกชีวิต
นำความเชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคม ผสาน AI และ Big Data พัฒนาเป็นโซลูชันที่เข้าถึงได้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ทรู คอร์ปอเรชั่น และพันธมิตรมีแผนขยายระบบ TSEWS ไปยังและขยายผลไปยังพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) และพื้นที่อื่น ๆ ที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างทั่วประเทศ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ช้างป่าอย่างสมดุล สร้างความอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ด้าน นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “การแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง (Human-Elephant Conflict: HEC) เป็นความท้าทายสำคัญที่ต้องอาศัยการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน บริษัทเอกชน และชุมชนในพื้นที่
โดยกรมอุทยานฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และ WWF ประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการระบบเตือนภัยล่วงหน้าซึ่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยร่วมกับกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (Camera Trap) และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังช้างป่าในการผลักดันช้างให้กลับสู่ป่าอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือนี้ยังเน้นการปกป้องพื้นที่เกษตรกรรมของชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศ เพื่อลดความสูญเสียทั้งต่อชุมชนและช้างป่า สร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน”
ตลอดระยะเวลา 7 ปีของการดำเนินงาน ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ True Smart Early Warning System (TSEWS) ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่หน่วยผลักดันช้างป่าอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุดในปี 2566 แม้พบเหตุการณ์ช้างป่าบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีถึง 1,104 ครั้ง แต่เกิดความเสียหายต่อพืชผลเพียง 4 ครั้ง หรือคิดเป็น 0.36% เท่านั้น นับเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2560 ก่อนการติดตั้งโซลูชันที่มีความเสียหายสูงถึง 74.5% สะท้อนให้เห็นว่าระบบแจ้งเตือน TSEWS นี้ ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถผลักดันช้างกลับคืนสู่ป่าและป้องกันความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพเกือบ 100%
สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่าภาพรวมของประเทศไทยประสบปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง (Human-Elephant Conflict: HEC) โดยพบว่าจำนวนช้างป่ามีอยู่ประมาณ 4,013-4,422 ตัว ซึ่งกระจายอยู่ใน 16 กลุ่มป่า 94 พื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศ และแนวโน้มมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่พื้นที่ป่าอนุรักษ์มีขนาดเท่าเดิม ส่งผลให้ช้างออกหากินนอกเขตป่า
ทั้งนี้ สถิติ 3 ปีล่าสุด (2564-2566) พบช้างป่าออกนอกพื้นที่มากกว่า 37,000 ครั้ง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและพืชผลเกษตรกรรวมกว่า 3,800 ครั้ง และที่น่าวิตกคือในช่วง 12 ปี (2555-2567) มีผู้เสียชีวิตถึง 227 ราย บาดเจ็บ 198 ราย จากการบุกรุกของช้างป่า สะท้อนให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างอย่างยั่งยืน