แบรนด์จีนบุกไทย ผงาดธุรกิจร้านอาหาร ดันแข่งขันสู่จุดเดือด

02 มี.ค. 2568 | 05:54 น.

นักธุรกิจจีนเร่งขยายร้านอาหารในไทย ชูกลยุทธ์ต้นทุนต่ำ-ขยายสาขาไว-เมนูหลากหลาย ดึงลูกทั้งในและต่างประเทศ ผู้ก่อตั้ง "FFI" ชี้ผู้ประกอบการเร่งสร้างจุดขายใหม่รักษาฐานลูกค้าเก่า

ตลาดร้านอาหารจีนในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังการเปิดประเทศกระแสความนิยมอาหารจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากพฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่เปิดรับรสชาติใหม่ ๆ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนที่ช่วยกระตุ้นตลาด

ขณะเดียวกัน แบรนด์ร้านอาหารจีนจากจีนเองก็เร่งขยายตัวในไทย ด้วยจุดแข็งด้านต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำ ระบบการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ร้านอาหารจีนสามารถแข่งขันและขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว

นายสุภัค หมื่นนิกร

นายสุภัค หมื่นนิกร ผู้ก่อตั้งสถาบันธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร ( FFI ) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีซี่ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด ผู้บริหารร้านแฮมเบอร์เกอร์ “Siam Steak” และไส้กรอกพรีเมี่ยม “อีซี่ส์” เปิดเผยข้อมูลกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า "ทุนจีน" กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง

การขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารจีนในประเทศไทยไม่เพียงแต่เพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับตลาด แต่ยังส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จีนได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการแข่งขันในตลาดอาหารและเครื่องดื่มของไทย ด้วยโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด พวกเขาเน้นการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่างและน่าประทับใจ เช่น การตกแต่งร้านที่ทันสมัย  การบริการที่รวดเร็ว

รูปจาก : เพจเฟสบุ๊ก หมี่เสี่ยว

และการนำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลายที่มีเอกลักษณ์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือแบรนด์อาหารจีนอย่าง Haidilao ที่มีการบริการลูกค้าที่ครบวงจร ตั้งแต่การทำเล็บ ไปจนถึงการชมการแสดง

นอกจากนี้ บริษัทจีนยังมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการต้นทุน ทำให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้ในระดับที่แข่งขันได้ และขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างรวดเร็ว

การเข้ามาของทุนจีนส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการแข่งขันด้านราคาและการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อดึงดูดลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยยังคงมีความได้เปรียบในเรื่องของความรู้และความเข้าใจในตลาดภายในประเทศ รวมถึงวัฒนธรรมการบริโภคของคนไทย

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของธุรกิจร้านอาหารจีนคือ “ต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำ” ผลมาจากโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนที่มีประชากรราว 1,400 ล้านคน ทำให้เกิดระบบเกษตรกรรมที่มีประสิทธิภาพและเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Economies of Scale)

แบรนด์จีนบุกไทย ผงาดธุรกิจร้านอาหาร ดันแข่งขันสู่จุดเดือด

นโยบายของรัฐบาลจีนตั้งแต่สมัยเหมาเจ๋อตง ได้ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรกรรม ทำให้จีนมีความสามารถในการผลิตอาหารและวัตถุดิบในปริมาณมาก และสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ นอกจากนี้ การผลิตปริมาณมหาศาลเพื่อรองรับตลาดภายในประเทศ ทำให้จีนสามารถตั้งราคาสินค้าได้ต่ำกว่าตลาดอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนเมื่อขยายตลาดมายังประเทศไทยที่มีประชากรเพียง 70 ล้านคน

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ซึ่งมีเกษตรกรและผู้ผลิตขนาดเล็กกว่า ทำให้ไม่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้ในระดับเดียวกับจีน การนำเข้าวัตถุดิบจากจีนจึงกลายเป็นทางเลือกที่ถูกกว่า ส่งผลให้ร้านอาหารจีนที่เปิดในไทยสามารถตั้งราคาขายที่แข่งขันได้มากกว่าร้านอาหารไทยในระดับเดียวกัน

ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักธุรกิจร้านอาหารจีน ได้แก่

1.พฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่บริโภคอาหารตลอด 24 ชั่วโมง คนไทยมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่หลากหลายและนิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน แม้ในช่วงดึกหรือเช้าตรู่ ทำให้ตลาดร้านอาหารสามารถดำเนินธุรกิจได้ตลอดทั้งวัน

2. ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับร้านอาหารจีนที่ต้องการจับกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่คุ้นเคยกับอาหารจีน

3.ต้นทุนวัตถุดิบและการนำเข้าสินค้าจากจีนที่ไม่สูงมากประเทศไทยมีนโยบายด้านภาษีนำเข้าที่เอื้ออำนวยต่อการนำเข้าวัตถุดิบจากจีน ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบโดยรวมของร้านอาหารจีนในไทยสามารถแข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศอื่น 

4. เจ้าของธุรกิจร้านอาหารจีนส่วนใหญ่มักเป็นผู้ประกอบการที่มีเงินทุนสูง สามารถลงทุนในด้านการตลาด การตกแต่งร้าน และขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว

นายสุภัค กล่าวว่า การแข่งขันระหว่างร้านอาหารไทยและร้านอาหารจีนในไทยกำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในด้านราคาวัตถุดิบ ต้นทุนแรงงาน และค่าเช่าพื้นที่ ปัจจุบันมีข้อมูลวงในระบุว่า “นักธุรกิจจีนจำนวนมากเข้ามาเรียนรู้สูตรอาหารไทย เพื่อพัฒนาและต่อยอดให้เป็นแฟรนไชส์อาหารไทยในจีนและขยายไปทั่วโลก”

“นักลงทุนชาวจีนไม่ได้ขาดแคลนในเรื่องของระบบการบริหารร้านอาหาร แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือสูตรอาหารและองค์ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยเท่านั้น

เนื่องจากจีนมีเทคโนโลยีการทำครัวที่ก้าวหน้า โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมความร้อนและการปรุงอาหาร ”

ในอนาคตร้านอาหารไทยต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในแง่ของคุณภาพ ราคา และประสบการณ์ของลูกค้า หากร้านอาหารไทยต้องการอยู่รอดจำเป็นต้องเร่งพัฒนาในด้านมาตรฐานการบริการ ระบบการบริหารจัดการ และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้สามารถแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่เป็นระบบและต้นทุนที่ต่ำกว่า

การเติบโตของร้านอาหารจีนในไทยจึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดร้านอาหารกำลังเปลี่ยนแปลง และผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของตนเอง ซึ่งโอกาสสำหรับร้านอาหารไทย ว่านอกเหนือจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการไทยสามารถนำกลยุทธ์ใดมาใช้ เช่น สร้างจุดขายเฉพาะตัว ปรับเมนูให้เหมาะกับลูกค้าต่างชาติ หรือใช้เทคโนโลยีช่วยลดต้นทุน