กสทช. ตร. และ ดีเอสไอ จับมือทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

01 เม.ย. 2567 | 16:38 น.
อัปเดตล่าสุด :01 เม.ย. 2567 | 16:45 น.

กสทช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และดีเอสไอ ร่วมทลายคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จับคนร้ายได้เกือบ 100 คน

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขัน ปราบปรามกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังและเด็ดขาด ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

สำนักงาน กสทช. จึงร่วมกับสำนักงานตรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันบูรณาการหาข่าวพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติในเขตพื้นที่  จ.นครศรีธรรมราช จึงได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การจับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวต่างชาติได้จำนวน 55 คน และชาวไทย 35 คน รวม 90 คน

 

 พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการสื่อสาร และการใช้อินเทอร์เน็ตก่อนเข้าทำการจับกุม รวมทั้งการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ประกอบการซักถามหลังการตรวจค้นจับกุมพบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการติดต่อหลอกลวงเหยื่อหลากหลายวิธีในหลายประเทศ โดยวิธีการหนึ่งที่คนร้ายใช้คือ จะทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านช่องทาง Social media โดยเฉพาะแอป Telegram ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตสื่อกลาง ซึ่งคนร้ายจะเชิญชวนเหยื่อให้ร่วมแนะนำ review โรงแรม รีสอร์ท หรือ ที่พักต่างๆ แล้วแจ้งว่าได้รับรางวัลตอบแทนเป็นตั๋วเครื่องบินหรือที่พักฟรี และให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ พร้อมส่งข้อความแนบลิงก์ให้กดยืนยันเพื่อรับรางวัล เมื่อเหยื่อหลงกลกดลิงก์ก็จะเป็นการเริ่มการติดตั้งโปรแกรมเข้ามือถือ แล้วคนร้ายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ก่อนหน้า ไปกระทำการเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคาร (โมบายแบงก์กิ้ง) และหลอกดูดเงินเหยื่อในลำดับถัดไป หรือใช้วิธีการหลอกให้เหยื่อร่วมลงทุนด้วยวิธีต่าง ๆ

 การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติครั้งนี้ตรวจพบในพื้นที่ ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 3 แห่งในพื้นที่ใกล้เคียงและเชื่อมโยงกัน ประกอบด้วย โรงแรม และบ้านพักก่อนขยายผลไปยังโกดังจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่นมือสอง ในพื้นที่ อ.นาบอน จ.นครศรีธธรมราช พบผู้ต้องหา และของกลางจำนวนมาก ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่โดยในครั้งนี้ทางฑูตตำรวจจีนและญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมตรวจสอบการกระทำผิดเพื่อนำไปสู่การขยายผลการกระทำผิดในประเทศจีนและญี่ปุ่นต่อไป

กสทช. ตร. และ ดีเอสไอ จับมือทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

 

 สำหรับของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย 1. คอมพิวเตอร์ จำนวน 223 เครื่อง 2. โทรศัพท์มือถือและซิมผี จำนวน 1,037 ซิม 3. Router กระจายสัญญาณ จำนวน 12 เครื่อง 4. บัญชีม้า จำนวน 80 เล่ม ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ, พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, พ.ร.บ.โทรคมนาคมฯ, พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และประกาศ กสทช. เรื่อง การยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการฯ และจะมีการขยายผลการกระทำผิดไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์อย่างเด็ดขาด

 

“การจับกุมครั้งนี้พบซิมผีกว่า 1,037 ซิมที่ไม่ได้ลงทะเบียนหรือลงทะเบียนไม่ถูกต้องตามกฎหมายและประกาศที่ กสทช. กำหนด ก็จะต้องมีการตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหากผู้ใดที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6-100 เลขหมายขึ้นไปแล้วยังไม่มาลงทะเบียนยืนยันตัวตนกับค่ายผู้ให้บริการถึงวันที่ 13 ก.ค.นี้ จะดำเนินการระงับการใช้งานเบอร์ และเพิกถอนเบอร์ในที่สุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามการนำซิมไปใช้ผิดกฎหมาย” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว