กสทช.ระส่ำ "ไตรรัตน์" สั่งย้ายใหญ่ผู้บริหารปมบอลโลก 2022

ถึงตอนนี้ต้องบอกว่า กสทช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนัก หลังล่าสุด นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ และ รักษาการเลขาธิการ กสทช. เซ็นต์คำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายโครงสร้างภายใน กสทช. หลังจาก นพ.สรณบุญ ใบชัยพฤกษ์ ประธาน ไม่เซ็นต์อนุมัติให้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. แม้ผลโหวตมีมติ 4:2:1 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม กรณีนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จำนวน 600 ล้านบาท เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎ มัสต์แคร์รี่ (Must Carry)

แม้มติบอร์ด กสทช. เสียงข้างมากให้ “ไตรรัตน์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. แต่ทว่า ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ปฏิเสธเซ็นต์คำสั่งให้ “ไตรรัตน์” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้วยเหตุผลที่ว่าคำสั่งแต่งตั้ง เลขาธิการ กสทช. เป็นอำนาจหน้าที่และดุลยพินิจของประธาน กสทช. แต่เพียงผู้เดียว

จนล่าสุด มีเอกสาร “ลับ” เผยแพร่ออกมาลงนามโดย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. ออกคำสั่ง เรื่อง ยกเลิกคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลับ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2566 สำหรับคำสั่งยกเลิกดังกล่าว สรุปว่า อาศัยอำนาจตามความในข้อ 9 และข้อ 59 ของระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแหงชาติ ว่า การบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565 เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ลับ) ที่ 629/2566 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสอน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เลยมีคำถาม รักษาการเลขาธิการ กสทช. เซ็นต์คำสั่ง "ลับ" ยกเลิกคำสั่งไต่สวนตนเองได้ด้วยหรือ
 

สั่งย้ายใหญ่ผู้บริหาร

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2566 มีเอกสารแต่งตั้งโยกย้ายโดย นายไตรรัตน์ ลงนามคำสั่งสำนักงาน กสทช. เรื่อง การย้ายและแต่งตั้งพนักงาน รวม 5 ฉบับ ได้แก่

1.คำสั่งสำนักงาน กสทช. ที่ 652/2566 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สั่ง ณ วันที่ 27 มิ.ย.2566 โดยแต่งตั้งนายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้อำนวยการสำนักการอนุญาตวิทยุคมนาคม 2 ให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายกิจการภูมิภาค ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป

2.คำสั่งสำนักงาน กสทช. ที่ 653.01/2566 เรื่อง ย้ายและแต่งตั้งพนักงาน สั่ง ณ วันที่ 27 มิ.ย.2566 โดย

• โยกย้ายนายเฉลิมชัย ก๊กเกียรติกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายงานบริหารองค์กร ไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายงานวิชาการ
•  โยกย้ายนางจิตรลดา หรูวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักกรรมการและเลขาธิการ สายงานบริหารองค์กร ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก สำนักอำนวยการกลาง สายงานบริหารองค์กร
•  โยกย้ายนายเธียรทวี สุทธินนท์ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สายงานองค์กร ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก สำนักบริหารข้อมูลกลาง สายงานบริหารองค์กร
• และ โยกย้ายนายขจรศักดิ์ ทานานนท์ ผู้อำนวยการสำนัก ประจำสำนักงาน ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก สำนักกรรมการและเลขาธิการ สายงานบริหารองค์กร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป

3.คำสั่งสำนักงาน กสทช. ที่ 653.02/2566 เรื่อง ให้พนักงานพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นรักษาการ สั่ง ณ วันที่ 27 มิ.ย.2566  ดังนี้

• ให้น.ส.มณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ้นจากการรักษาการแทนรองเลขาธิการ กสทช. สายงานวิชาการ
• ให้นายพสุ ศรีหิรัญ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักวิเคราะห์นโยบาย สายงานวิชาการ พ้นจากการรักษาการแทนผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายวิชาการ
•  ให้นางรมิดา ลีลาพตะ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักงานส่งเสริมการแข่งขันและกำกับดูแลกันเอง สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ้นจากการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
•  ให้นายณัฐนนท์ ลี้ศัตรูพ่าย ผู้อำนวยการสำนัก สำนักพัฒนาองค์กรวิชาชีพและส่งเสริมการบริการทั่วถึง สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ้นจากการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนัก สำนักค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
•  ให้นายธนาเทพ เทวกุล ณ อยุธยา นักวิชาการนโยบายและแผนเชี่ยวชาญ พ้นจากการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนัก สำนักบริหารข้อมูลกลาง สายงานบริหารองค์กร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป

4.คำสั่งสำนักงาน กสทช. ที่ 653.03/2566 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเป็นผู้รักษาการแทน กรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง สั่ง ณ วันที่ 27 มิ.ย.2566 ดังนี้

• แต่งตั้งนายกีรติ อาภาพันธุ์ เศรษฐกรเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนรองเลขาธิการ กสทช. สายงานวิชาการ
• แต่งตั้งน.ส.อรดา เทพยายน ผู้อำนวยการสำนัก สำนักประธานกรรมการและการประชุม สายงานบริหารองค์กร ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. สายงานบริหารองค์กร
•  แต่งตั้งนายอาคม สุวรรณรักษา ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตประกอบกิจการโครงข่าย สิ่งอำนวยความสะดวก และเครื่องวิทยุคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนัก สำนักการการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
•  แต่งตั้งนายธราเทพ เทวกุล ณ อยุธยา นักวิชาการนโยบายและแผนเชี่ยวชาญ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนัก สำนักค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
• แต่งตั้งนายศุรวีร์ ไปรเวทย์ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาประสิทธิภาพระบบสารสนเทศ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สายงานบริหารองค์กร ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนัก สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สายงานบริหารองค์กร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป

5.คำสั่งสำนักงาน คำสั่งสำนักงาน กสทช. ที่ 653.04/2566 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเป็นผู้รักษาการแทน กรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง สั่ง ณ วันที่ 27 มิ.ย.2566 ดังนี้

• แต่งตั้งนางจิตรลดา หรูวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักงานกรรมการและเลขาธิการ สายงานบริหารองค์กร ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทน (อีกตำแหน่ง) ผู้อำนวยการสำนัก สำนักอำนวยการกลาง สายงานบริหารองค์กร
•  แต่งตั้งนายชัยรัตน์ ทองจับ ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตวิทยุคมนาคม 1 สายงานบริหารองค์กร ให้ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทน (อีกตำแหน่ง) ผู้อำนวยการสำนัก สำนักการอนุญาตวิทยุคมนาคม 2 สายงานบริหารองค์กร

ก่อนหน้านี้ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ได้มีความเห็นสอดคล้องชะลอการคัดเลือกผู้บริหารสำนักงาน กสทช. จนกว่ากระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. และ โครงสร้างของสำนักงาน กสทช.ที่จัดขึ้นใหม่จะแล้วเสร็จ แต่สุดท้ายไม่ได้เป็นไปตามข้อตกลง

อย่างไรก็ตาม “ฐานเศรษฐกิจ” ได้โทรสอบถาม นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ และ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ถึงการโยกย้ายผู้บริหารในครั้งนี้ ว่า เป็นการย้ายปกติ สำนักงาน กสทช. ต้องการนำบุคลากรที่เหมาะสมกับงานมาปฏิบัติหน้าที่ตรงตามสายงาน เพื่อให้โครงสร้าง กสทช.เป็นไปอย่างเหมาะสม