ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ AI แต่ไม่กล้าถาม

29 มิ.ย. 2566 | 10:40 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มิ.ย. 2566 | 10:40 น.

รวมทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ AI อยากรู้แต่ไม่กล้าถาม "ปัญญาประดิษฐ์" ที่เข้ามาในชีวิตของผู้คนอย่างรวดเร็ว เป็นทั้งโอกาสเเละสร้างความกังวลได้ไม่น้อย

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ถูกพูดถึงในหลากหลายวงการ ผู้บริหารธุรกิจพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนคิดว่าจะปรับตัวอย่างไร และศิลปินแรปเปอร์ดัง อย่าง Drake ก็ดูจะไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้ แม้แต่แรงงานสตรีในสหรัฐอเมริกาก็เริ่มเครียด เพราะมีรายงานว่า AI จะเข้ามาแย่งงานของพวกเธอกว่า 80 % ขณะที่ก่อนหน้านี้ Challenger, Gray Christmas บริษัทช่วยหางานของสหรัฐฯ ออกมาให้ข้อมูลในเดือนพฤษภาคมมีพนักงานสหรัฐฯ ถึง 3,900 คน ถูกเลย์ออฟจากงานเพราะถูกบริษัทนำ AI เข้ามาใช้แทนที่ โดยงานที่กระทบมากที่สุดคืองานเลขาฯ และงานนักเขียน และนักข่าว ซึ่งถูก ChatGPT เข้ามาทำงานแทน

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทั่วโลกก็ยังให้ความสนใจกับ AI ปัญญาประดิษฐ์  เเละเกือบชั่วข้ามคืน เครื่องมือ AI ใหม่ๆ ได้เข้ามาอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้โดยผู้คนหลายพันล้านคน

มองในเเง่ดี AI ส่งเสริมศักยภาพของเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลิตภาพ สร้างยุคใหม่ของงานที่ดีขึ้น การศึกษาที่ดีขึ้น การรักษาโรคที่ดีขึ้น แต่ผู้สงสัยเกี่ยวกับ AI ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของเทคโนโลยีในการขัดขวางงาน และอาจนำมาซึ่งจุดจบของมนุษยชาติอย่างที่เราทราบกันดี ผู้บริหารบางคนใน Silicon Valley ดูเหมือนจะมีมุมมองทั้งสองชุดพร้อมกันอย่าง สับสน แต่สิ่งที่ชัดเจน คือ AI ไม่ได้หายไป แต่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นี่คือทุกสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อให้เท่าทัน

เอไอคืออะไร?

 “ปัญญาประดิษฐ์” ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี คำนี้เป็นคำกว้างๆ ที่หมายถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานที่ซับซ้อนได้หลากหลาย ซึ่งก่อนหน้านี้อาจต้องใช้ข้อมูลจากบุคคลจริง หากทุกวันนี้เราใช้อินเทอร์เน็ต ก็แทบจะใช้บริการที่อาศัย AI ในการจัดเรียงข้อมูล กรองเนื้อหา ให้คำแนะนำ รวมถึงงานอื่นๆ

หรือถ้าคุณชอบดูแอปฯ สตรีมมิ่ง นี่ก็เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ Netflix แนะนำภาพยนตร์และช่วยลบสแปม คำพูดแสดงความเกลียดชัง และเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ ออกจากฟีดโซเชียลมีเดียของเรา ช่วยขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่คุณลักษณะการแก้ไขอัตโนมัติและ Google Translate ไปจนถึงบริการจดจำใบหน้า 

AI ยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง เช่น การปรับสัญญาณไฟจราจรตามเวลาจริงเพื่อจัดการปัญหาการจราจรติดขัด หรือช่วยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์วิเคราะห์ภาพเพื่อวินิจฉัยโรค ยังเป็นศูนย์กลางในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับด้วยการประมวลผลข้อมูลภาพจำนวนมหาศาล เพื่อให้ยานพาหนะสามารถเข้าใจสภาพแวดล้อมได้

ทำไมตอนนี้ใครๆ ก็พูดถึง AI

หลายปีเเล้วที่ AI ทำงานให้บริการที่เราใช้ทุกวันเป็นส่วนใหญ่ สิ่งนี้เปลี่ยนไปหลังจากการเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพฤศจิกายนปีที่เเล้ว ถือเป็นแชทบอทตัวเเม่ในเวลานี้ก็ว่าได้ เเน่นอนว่าคุณก็คงเคยใช้ ChatGPT เหมือนกัน

เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นโดย OpenAI เเละ ChatGPT ได้จุดประกายการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาและปรับใช้เครื่องมือที่คล้ายกัน ทั้ง Microsoft และ Google 

 AI เชิงกำเนิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุน ChatGPT เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย Meta , Amazon และ Alibaba กล่าวว่า กำลังทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือสร้าง AI ด้วยเช่นกัน รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย

AI เชิงกำเนิดทำงานอย่างไร

Generative AI หรือเรียกสั้นๆว่า Gen AI ช่วยให้เครื่องมือต่างๆ สามารถสร้างงานเขียน รูปภาพ และแม้กระทั่งเสียงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่หลายแห่งได้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของตนเอง ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากข้อมูลออนไลน์จำนวนมหาศาล ขอบเขตและวัตถุประสงค์ของชุดข้อมูลเหล่านี้อาจแตกต่างกันไป เช่น เวอร์ชันของ ChatGPT ที่เผยแพร่สู่สาธารณะเมื่อปีที่แล้วได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลจนถึงปี 2021 เท่านั้น (ปัจจุบันเป็นเวอร์ชันล่าสุดมากขึ้น)

โมเดลเหล่านี้ทำงานผ่านวิธีการที่เรียกว่า "การเรียนรู้เชิงลึก" ซึ่งจะเรียนรู้ในรูปแบบและความสัมพันธ์ระหว่างคำ ดังนั้นจึงสามารถคาดการณ์การตอบสนองและสร้างผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องไปยังผู้ใช้ได้ 

Artificial General Intelligence (AGI) หรือ General AI คืออะไร

 AGI หรือ Artificial General Intelligence เป็นระดับที่ AI มีความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์ สามารถคิด ทำความเข้าใจ เรียนรู้ และประยุกต์ใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้เอง ใกล้เคียงกับความสามารถของมนุษย์ คาดการณ์ว่าในอนาคต หาก AGI เกิดขึ้นมาจริงก็เท่ากับว่าเครื่องจักรต่าง ๆ จะมีความสามารถในการเข้าใจโลกได้เหมือนกับมนุษย์ และเมื่อสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเองได้ ก็จะมีทักษะการแก้ปัญหาได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้ง

Sam Altman CEO ของ OpenAI เคยบอกถึงความเป็นไปได้ของ AGI ว่าฉลาดหลักแหลมที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกหรืออาจย้อนกลับมาและยุติมนุษยชาติ   แต่ในขณะนี้ AGI ยังคงเป็นข้อมูลเท่านั้น ดังนั้นอย่ากังวลกับเรื่องนี้มากเกินไป

การตื่นตัวของ AI มีมากแค่ไหน?

ไม่ใช่ว่าเครื่องมือ AI ทั้งหมดจะมีประโยชน์เท่ากัน หลาย ๆ บริษัทก็จะนำเสนอฟีเจอร์และกลยุทธ์ของ AI เพียงเพื่อใช้ประโยชน์จากวงจรการโฆษณาในปัจจุบัน แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา AI ได้แสดงศักยภาพในการเปลี่ยนวิธีการทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้คน

หนึ่งในจุดขายที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับแชทบอท AI คือความสามารถในการทำให้มีประสิทธิผลมากขึ้น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์บางรายบอกกับ CNN ว่า ChatGPT ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงานได้ 

AI จะขโมยงานของเราหรือไม่?

ความกลัวคือ AI จะแย่งงานนับล้าน ขณะที่บริษัทต่างๆ มีแนวโน้มต้องการพนักงานใหม่เพื่อช่วยงานและจัดการเครื่องมือ AI การจ้างงานนักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแมชชีนเลิร์นนิง และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% โดยเฉลี่ยภายในปี 2570 ตามการประมาณการล่าสุดจาก World Economic Forum

แต่การเพิ่มจำนวนของ AI อาจ ทำให้หลายอาชีพตกอยู่ในความเสี่ยง WEF คาดการณ์ว่าอาจมีงานประเภทเก็บบันทึกข้อมูลและธุรการลดลง 26 ล้านตำแหน่งภายในปี 2570 พนักงานป้อนข้อมูลและเลขานุการผู้บริหารคาดว่าจะสูญเสียมากที่สุด

สำหรับตอนนี้ มีข้อจำกัดอย่างชัดเจนว่า AI สามารถทำงานของมนุษย์ได้ดีแค่ไหน หลังจากสื่อ CNET ทดลองใช้ AI ในการเขียนบทความ เว็บไซต์ด้านเทคโนโลยี อย่าง Futurism ก็ค้นพบข้อผิดพลาด และในบางกรณีก็มีการลอกเลียนแบบในหลายส่วน

AI เป็นอันตรายหรือไม่?

ผู้บริหารระดับสูงของ AI ได้เตือนว่าอาจทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ แต่ผู้บริหารกลุ่มเดียวกันนี้ก็กำลังแข่งขันกันเพื่อใช้เทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์ของตนเอง ผู้เชี่ยวชาญบางคน บอกว่า การมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์วันโลกาวินาศที่อยู่ห่างไกล อาจทำให้ละเลยเรื่องการกลับมาทบทวน อันตรายที่เกิดขึ้นในทันทีที่ AI สามารถก่อให้เกิดได้ เช่น การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด ฯลฯ 

ตัวอย่างเช่น อาจใช้ AI เชิงกำเนิด เพื่อสร้าง Deepfake ซึ่งก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้สร้างสื่อสังเคราะห์เพื่อปลอมแปลงลักษณะบุคคลต่าง ๆ ผ่านสื่อวิดีโอ รวมถึงภาพถ่าย และการบันทึกเสียง โดยใช้ประโยชน์จาก AI  เพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อในระหว่างการเลือกตั้งหรือเปิดทำให้เกิดการหลอกลวงที่น่ากลัว เป็นต้น

การกำกับดูเเล AI 

หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกาและยุโรปกำลังผลักดันให้มีการออกกฎหมายเพื่อช่วยวางระบบป้องกันสำหรับ AI ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า AI จะสร้างภาพ วิดีโอและเสียง ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้สื่อบันเทิง เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมอื่นๆ หยุดชะงัก 

ในเดือนมีนาคม OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรุ่นต่อไปที่ขับเคลื่อน ChatGPT จากข้อมูลของบริษัทและการทดสอบในช่วงแรก GPT-4 สามารถให้คำตอบที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น ผ่านการทดสอบทางวิชาการด้วยคะแนนสูง และสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานได้จากภาพร่างที่วาดด้วยมือ ( ก่อนหน้านี้ Altman กล่าวว่า OpenAI ยังไม่ได้ฝึก GPT-5)

AI จะถูก นำไปใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ อีกมากมายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นั่นหมายความว่าทุกคนจะต้องเรียนรู้วิธีอยู่กับมันอย่างมีความรับผิดชอบ

ข้อมูล : 

cnn 

businessinsider

futurism

techsauce

14 million jobs worldwide will vanish in the next 5 years, new economic report finds