“กลุ่มสามารถ” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.6 หมื่นล้าน เติบโต 75%

10 ก.พ. 2566 | 13:33 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.พ. 2566 | 14:29 น.

“กลุ่มสามารถ” ตั้งเป้ารายได้ปี 66 จำนวน 1.6 หมื่นล้าน เติบโต 75% เตรียมนำ SAV ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศระดมทุนไตรมาส 3 ของปีนี้

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในปี 2566  กลุ่มสามารถตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มที่ 16,000 ล้านบาท เติบโต 75%  เนื่องจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายมีการเปิดประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา อีกทั้งกลุ่มสามารถเริ่มปรับองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และ ที่ในปีนี้มีการเลือกตั้งช่วงประมาณเดือนเมษายน หรือช้าสุดเดือนพฤษภาคม โดยพรรคการเมืองได้ประกาศนโยบายผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง โดยในปีนี้คาดว่าจะลงทุน 3,000 - 4,000 ล้านบาท

ไตรมาส 3 ดัน SAV ระดมทุนในตลาด

นายวัฒน์ชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภายในไตรมาส 3/2566 นำ บริษัท Samart Aviation Solutions หรือ SAV ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ได้รับสัมปทานให้บริการวิทยุการบินทั้งหมด 39 ปี  เหลือสัมปทานทั้งหมด 29 ปี ซึ่งสิงเหล่านี้บริษัทมีความเชี่ยวชาญ

 

สายธุรกิจ Digital ICT Solution ตั้งเป้า  6,000 ล้านบาท  เติบโต14%

ด้านนายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถเทลคอม กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มสามารถเทลคอม มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นประมาณ 13% โดยมีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,300 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือปัจจุบันถึง 7,300 ล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2566  บริษัทตั้งเป้ารายได้จำนวน 6,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14%  เนื่องจากมีโซลูชั่นส์ที่มีประสิทธิภาพ อาทิ ERP Solutions,  Cyber Security Solutions, Smart CCTV, Payment Connecting Platform, Transmission Networks และอื่นๆ  จะเห็นได้ว่าทุกโซลูชั่นส์ที่บริษัทมุ่งเน้น สามารถตอบโจทย์การบริหารจัดการทรัพยากรและการพัฒนาองค์กรในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ จึงน่าจะมีโอกาสในการต่อยอดและการขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ตามที่คาดหวัง โดยตั้งเป้าในการเซ็นสัญญาใหม่ในปีนี้ ถึงกว่า 10,000 ล้านบาท

กลุ่มสามารถ

 

สายธุรกิจ Utilities & Transportations ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้านบาท

ขณะที่ นายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวอีกว่า ภายใต้สายธุรกิจ U-trans ประกอบด้วย Aviation Solutions ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน, Power Construction & Services  ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง , Other Solutions & Manufacturing ซึ่งรวมบริษัท Vision and Security , โครงการ Direct Coding และบริษัทสามารถวิศวกรรม ล้วนมีผลการดำเนินธุรกิจที่เติบโตในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีรายได้รวมปี 65 เพิ่มขึ้นถึง 28 %

ในปี 2566 ยังคาดการณ์การเติบโตที่ต่อเนื่องในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะ CATS ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ซึ่งในปี 65 นอกจากจะมีรายได้ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้รับการต่ออายุสัมปทานอีก 10 ปี รวมอายุสัมปทานทั้งสิ้น 49 ปี ให้บริการมาแล้ว 20 ปี จึงยังคงเหลืออายุสัมปทานถึง 29 ปี โดยปีนี้ คาดว่า CATS จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 14 % และมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายเร่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตลอดจนมีแผนการเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ถึง 3 แห่งในเร็วๆนี้ 

ส่วนธุรกิจด้านสถานีและสายส่งไฟฟ้า โดยบริษัทเทด้าและทรานเส็ค ก็มีผลการดำเนินธุรกิจที่บรรลุเป้าในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มี Backlog รวมกัน 2,700 ล้านบาท และมีโอกาสสูงในการได้งานใหม่เพิ่มเติมอีกในปีนี้

ด้านโครงการ Direct Coding หลังเริ่มให้บริการในเดือน พ.ค. ปี 65 ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จำนวน 620 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และในปีนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้จำนวน 980 ล้านบาท สูงขึ้นจากการเปิดเมืองและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทจะรับรู้รายได้รวม 7 ปีต่อเนื่อง ซึ่งจากประโยชน์ของระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ หรือ Direct Coding นี้ ก็มีโอกาสขยายบริการไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้าอื่นๆ ในอนาคต

สายธุรกิจ U-trans ด้วย บริษัท Vision and Security ผู้ให้บริการกล้องวงจรปิดครบวงจร มีรายได้ในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ด้วยผลงานการติดตั้งกล้องวงจรปิดภาคใต้ โดยในปีนี้ยังมีโอกาสในการติดตั้งระบบ CCTV ในโครงการอสังหารายใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถต่อยอดและขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นในภาคเอกชน 

สายธุรกิจ Digital Communications ลุยสายมูเต็มรูปแบบ

 นายสุภวัส พรหมวิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บมจ.สามารถดิจิตอล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  ธุรกิจหลักในการฟื้นรายได้ของสายธุรกิจนี้ คือ การให้บริการ Digital Trunk Radio ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ราย  และมีโอกาสเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการอย่างก้าวกระโดดเมื่อโครงการ National Trunk Network มีความชัดเจน

นอกจากนี้ เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ซึ่งถูกจริตคนไทยและคนเอเชีย ที่มีโอกาสเติบโตในยุคดิจิทัล บริษัทจึงเร่งพัฒนาบริการ Application Horoworld และ Thai Merit  รวมทั้งบริการสายมูที่แตกต่างและครบวงจรอื่นๆ โดยนอกจากจะให้บริการตรงแก่ Consumer แล้ว ยังเน้นการให้บริการผ่านพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ อาทิ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ, ธนาคาร, Social Platform, โรงพยาบาล, สายการบิน เป็นต้น โดยรวมแล้วคาดว่าปี 2566 จะเป็นปีที่สายธุรกิจ Digital Communications จะมีการฟื้นตัวและการเติบโตที่โดดเด่น จึงตั้งเป้ารายได้จำนวน 5,000 ล้านบาท