เปิดกลยุทธ์ ‘ช้อปปี้ VS ลาซาด้า’ ฝ่าวิกฤติ

16 พ.ค. 2564 | 12:05 น.

เปิดกลยุทธ์ ‘ช้อปปี้ VS ลาซาด้า’ ฝ่าวิกฤติ

ยักษ์มาร์เก็ตเพลส งัดกลยุทธ์รับโควิดระลอก 3 ช้อปปี้ สานต่อ #Shopee Together หนุนหน่วยงานสาธารณสุข ช่วยผู้ประกอบการรายย่อย อัดแคมเปญช็อปอยู่บ้าน อุ่นใจ ขณะที่ “ลาซาด้า” ส่งฟีเจอร์ “ช้อป 9 บาททุกวัน” พร้อมดึงเอสเอ็มอี ร่วมเปิดร้านบนแพลตฟอร์ม 60,000 ราย

นางสาวสุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าช้อปปี้ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อสถานการณ์โควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยยังมุ่งมั่นในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงสินค้าและของใช้จำเป็นได้อย่างสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ และให้ความสำคัญในเรื่องของสวัสดิภาพของผู้ใช้งานช้อปปี้

สำหรับสถานการณ์ครั้งนี้ช้อปปี้ ได้สานต่อและดำเนินโครงการ #ShopeeTogether เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผล กระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งให้การสนับสนุนแก่หน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ขายชุมชนทุกภาคทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบทางด้านธุรกิจ โดยได้แคมเปญ ‘เที่ยวทิพย์ ช้อปของดีของทั่วไทย’ เปิดโอกาสให้นักช็อปทั่วประเทศสามารถเข้าถึงและร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชนคุณภาพดีโดยผู้ประกอบการจากทั่วภูมิภาค 400 รายการ

พร้อมทั้งจัดแคมเปญตอบโจทย์กับสถานการณ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพี่น้องชาวไทยจะสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายในราคาคุณภาพ ล่าสุดได้จัดแคมเปญ “ช้อป อยู่บ้าน อุ่นใจ” #ShopeeFromHome ที่มาพร้อมสินค้าที่จำเป็นครอบคลุมทุกหมวดหมู่จากแบรนด์ดังบน Shopee Mall และร้านค้าชั้นนำ อาทิ Samsung, Unilever, Colgate,
MamyPoko, P&G และอีกมากมาย โดยมาพร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ อย่าง โค้ดส่งฟรีขั้นตํ่า 0 บาท โค้ดรับเงินคืน 10 % Shopee Coins, โค้ดรับเงินคืน 12% Shopee Coins เมื่อชำระเงินผ่าน ShopeePay พิเศษสำหรับลูกค้าใหม่รับเลยโค้ดส่วนลด มูลค่า 150 บาท ไม่มีขั้นตํ่า พิมพ์ NBCVD150 ไปช้อปต่อ

“เราได้มีการจัดแคมเปญและพัฒนากิจกรรมใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มของเรา เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นได้อย่างสะดวกสบายครบครัน และช้อปปี้จะติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและนำมาตรการป้องกันตามแนวทางของรัฐบาลมาปรับใช้อย่างเคร่งครัด”

 

ด้านนางสาวเจสสิก้า หลิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 นี้ ลาซาด้าตระหนักถึงความจำเป็นของการจำกัดการเดินทาง เมื่อผู้คนต้องอยู่บ้าน ธุรกิจต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย จากความสำเร็จของแคมเปญ Lazada 5.5 Super Discount Day ที่ผ่านมา ยังสะท้อนถึงความต้องการช็อปปิ้งออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

 

เปิดกลยุทธ์  ‘ช้อปปี้ VS ลาซาด้า’ ฝ่าวิกฤติ

 

ล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “ช้อป 9 บาททุกวัน” โดยได้คัดสรรสินค้าคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า ให้ผู้บริโภคได้เลือกช็อปได้ทุกเวลา เริ่มต้นที่ราคา 9 บาท อาทิ อุปกรณ์ออกกำลังกาย แฟชั่นเครื่องแต่งกาย บ้านและไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ Flash Sales สินค้าราคา 9 บาท, สินค้าราคา 9 บาท 49 บาท 99 บาท และ 199 บาท ที่มีให้เลือกทุกวัน และ คูปองส่งฟรีทั่วประเทศ เก็บได้ทุกวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกช่วยเหลือนักช้อปชาวไทยให้สามารถซื้อหาสินค้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกจากบ้าน ซึ่งจะช่วยลดการสัมผัสและแพร่กระจายเชื้อโรค ช่วยให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง

 

นอกจากนี้ จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งที่ผ่านๆ มา เห็นธุรกิจร้านค้าจำนวนมากปรับตัวให้อยู่รอดได้ด้วยการย้ายมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้นลาซาด้าจึงได้เปิดตัวแพ็กเกจใหม่ “ร้านค้าใหม่ติด เทอร์โบ” ให้ผู้ขายรายใหม่เปิดร้านได้ง่ายๆ เพียง 1 นาที พร้อมรับ 7 สิทธิพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียม 0% ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน ไม่มีค่าแรกเข้า, ฟรีค่าธุรกรรมการชำระเงิน 1 เดือน จากปกติเดือนละ 2%, ฟรีคูปองส่งฟรีจากลาซาด้า, ฟรีคูปองกระตุ้นยอดขาย ส่วน ลด 50% ไม่มีขั้นตํ่า และส่วนลด 120 บาท, ฟรีคอร์สเรียนรู้เทคนิคการขายออนไลน์ กับ Lazada University, ฟรีทีมงานสมัครร้านค้า พร้อมให้คำปรึกษาด้านการขายนานถึง 1 เดือน และเจ้าหน้าที่ Call Center ดูแลตลอดระยะเวลาการขาย และฟรีเครื่องมือและแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้เพื่อช่วยเร่งเครื่องให้ร้านค้าใหม่เหล่านี้เติบโตได้เร็วขึ้น ลาซาด้าคาดว่าจะสามารถช่วยร้านค้าใหม่มากกว่า 60,000 ร้านบนแพลตฟอร์มด้วยแพ็กเกจใหม่นี้”

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญใหม่ ทั้งสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายนี้ จะมีส่วนช่วยสนับ สนุนให้สังคมไทยก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ไปได้ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลให้กับประเทศไทยต่อไป” 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,678 หน้า 16 วันที่ 13 - 15 พฤษภาคม 2564