แกร็บ ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนหนุนคนไทยฝ่าโควิด

07 พ.ค. 2564 | 19:16 น.

แกร็บ ประเทศไทย ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก พาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ภายใต้งบประมาณรวมกว่า 40 ล้านบาท ตลอดเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้ เพื่อร่วมสนับสนุนคนไทยให้สามารถเดินหน้าและก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ระลอก 3 ไปด้วยกัน

นายอเลฮานโดร โอโซริโอ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ แกร็บได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับแผนการดำเนินงาน ทั้งธุรกิจบริการการเดินทาง (เรียกรถผ่านแอป) ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ประชาชนงดออกจากบ้าน และธุรกิจเดลิเวอรีเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างเต็มที่ และยังคงสนับสนุนให้ทุกฝ่ายในวงจรธุรกิจของแกร็บยังคงเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมกันนี้ แกร็บยังได้ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก นั่นคือ พาร์ทเนอร์ร้านอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก พาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเสียสละแรงกายแรงใจเพื่อรับมือกับการป้องกันโรคและดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย”

แกร็บ ประกาศ 3 มาตรการเร่งด่วนหนุนคนไทยฝ่าโควิด

 

 

 

 

สำหรับ 3 มาตรการเร่งด่วนที่แกร็บจะดำเนินการ ประกอบด้วย

•             ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยผ่านแคมเปญ “อุดหนุนร้านค้าคนไทย” ด้วยการโปรโมตพาร์ทเนอร์ร้านอาหารขนาดเล็กทั่วประเทศในรูปแบบต่างๆ อาทิ การโฆษณาผ่านแบนเนอร์ (Banner Ads) การสร้างไอคอนพิเศษ “Support Local Restaurant” บนแอปพลิเคชันแกร็บ รวมถึงประชาสัมพันธ์ร้านค้าผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อเพิ่มอัตราการมองเห็น (Visibility) และการเข้าถึงร้านเหล่านั้น  ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการด้วยการมอบส่วนลดค่าส่ง 15 บาทเมื่อสั่งอาหารขั้นต่ำผ่านแกร็บฟู้ด 150 บาทโดยใช้โค้ดส่วนลด “SUPPORT” รวมทั้งสิ้น 2 ล้านสิทธิ ตัังแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับลดค่าคอมมิชชันให้กับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารเหลือ 0% สำหรับการสั่งอาหารแบบ “รับอาหารที่หน้าร้านด้วยตนเอง” (Self Pick-up) เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม ถึง 1 สิงหาคม 2564 โดยพาร์ทเนอร์ร้านอาหารสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.grabmerchantth.com/spu ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมเป็นต้นไป

•             สนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารให้สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้พาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการการเดินทาง (เช่น แกร็บแท็กซี่ หรือแกร็บคาร์) สามารถรับงานจัดส่งอาหารด้วยรถยนต์ได้ เป็นอีกทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากการรับ-ส่งผู้โดยสารในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมกันนี้ แกร็บยังสนับสนุนค่าตรวจโรคโควิด-19 ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารมูลค่า 500 บาท พร้อมมอบเงินชดเชยรายได้สูงสุด 9,500 บาท หากตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19

•             ส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ด้วยการมอบส่วนลดค่าบริการเมื่อสั่งอาหารผ่านแกร็บฟู้ดให้กับแพทย์ พยาบาลและบุคลากรของโรงพยาบาลรัฐจำนวน 5 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยมอบส่วนลด 20 บาทเมื่อสั่งอาหารขั้นต่ำ 150 บาท จำนวนทั้งสิ้น 300,000 สิทธิ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคมจนถึง 30 มิถุนายน 2564

“มาตรการเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแกร็บแคร์ (GrabCares) #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ซึ่งแกร็บได้ดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งนอกจากการให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มต่างๆ ในวงจรธุรกิจของแกร็บแล้ว แกร็บยังให้ความสำคัญการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างเข้มงวด โดยมุ่งส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารและสินค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ตามแนวทางหรือข้อกำหนดของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด อาทิ การใช้มาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส การลดความเสี่ยงจากการใช้เงินสดด้วยการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานชำระค่าบริการผ่านอีวอลเล็ตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัย เช่น ระบบคัดกรองด้านสุขภาพและสุขอนามัยของพาร์ทเนอร์คนขับผ่านแอปพลิเคชัน รวมถึงการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนพาร์ทเนอร์คนขับของเรา เป็นต้น แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน แต่แกร็บจะยังอยู่เคียงข้างคนไทยเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน และพร้อมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ระลอกนี้ไปด้วยกัน” นายอเลฮานโดร กล่าวเสริม