หัวเว่ย เผยรายได้ไตรมาสแรก ชี้ธุรกิจยังแข็งแกร่ง

29 เม.ย. 2564 | 16:47 น.

เซินเจิ้น, (29 เม.ย 64)  หัวเว่ย แถลงผลประกอบการสำหรับไตรมาสแรกของปี  2564 โดยผลการดำเนินธุรกิจยังเป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้  รายได้รวม 152,200 ล้านหยวน ลดลง 16.5% ธุรกิจคอนซูมเมอร์มีรายได้วูบ

สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 หัวเว่ย ทำรายได้รวมอยู่ที่ 152,200 ล้านหยวน ลดลง 16.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยส่วนธุรกิจโครงข่ายยังคงเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์มีรายได้ลดลง สืบเนื่องมาจากการขายแบรนด์สมาร์ทดีไวซ์ Honor ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ด้านกำไรสุทธิของหัวเว่ยสูงขึ้น 3.8% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงานและเสริมประสิทธิภาพการจัดการ รวมไปถึงรายได้จากค่าลิขสิทธิ์สิทธิบัตรจำนวนกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ปี 2564 ยังคงเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับเรา แต่ก็นับเป็นปีที่กลยุทธ์ในการพัฒนาสู่อนาคตของเราเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอีกขั้น เราขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรที่มอบความไว้วางใจให้หัวเว่ย ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายรูปแบบใด เราจะยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความเข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างให้เกิดความยั่งยืนทางธุรกิจ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด เราจะยังคงให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้าเสมอ พร้อมส่งมอบคุณค่าทางธุรกิจให้กับลูกค้าดังเช่นที่ผ่านมา” นายอีริค สวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าว

หัวเว่ย เผยรายได้ไตรมาสแรก ชี้ธุรกิจยังแข็งแกร่ง

 

หัวเว่ย ยังคงดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของเทคโนโลยี 5G และยังคงพร้อมสนับสนุนผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกในการติดตั้งโครงข่าย 5G พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของทั้งลูกค้าและภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพในการส่งมอบเทคโนโลยีของบริษัทอีกด้วย หัวเว่ยยังคงเสริมศักยภาพด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และเพิ่มการลงทุนในด้านซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ด้านบริการและด้านซอฟต์แวร์อย่างค่อยเป็นค่อยไปในอนาคต

หัวเว่ย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาดังเช่นที่เป็นมา โดยเรายังทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือความท้าทายและข้อจำกัดด้านความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทานในตลาด ทั้งนี้ เราจะยังมุ่งสร้างสิ่งใหม่ ๆ ในด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน และผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น” นายอีริค สวี กล่าวย้ำ

สำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของหัวเว่ยในระดับโลกเสมอมา ภายใต้พันธกิจ “เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และสนับสนุนประเทศไทย” สำหรับส่วนธุรกิจในตลาดต่างประเทศของหัวเว่ย ทั้งนี้ ในฐานะที่หัวเว่ยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและพาร์ทเนอร์ด้าน ICT ที่ได้รับความไว้วางใจ หัวเว่ยได้ช่วยขับเคลื่อนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT การเชื่อมต่อด้าน 5G และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ผ่านการเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมอันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้ ในฐานะที่หัวเว่ยเป็นผู้ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในเชิงรุก หัวเว่ยได้มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็นขุมพลังทางเศรษฐกิจและศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียนภายใต้แผนแม่บทไทยแลนด์ 4.0 ผ่านโครงการ Open Lab, ศูนย์ 5G EIC (5G Ecosystem innovation center) ศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในประเทศไทย และอื่น ๆ และในฐานะที่หัวเว่ยเป็นผู้ช่วยสนับสนุนคุณค่าทางด้านสังคมอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยยังได้ช่วยรัฐบาลไทยและโรงพยาบาลอีกหลายแห่งในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา และยังได้ช่วยพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลอีกมากกว่า 16,500 คนให้แก่สังคมไทยอีกด้วย