เร่งทดสอบ Mobile ID ปี 64 นำร่องยื่นภาษีออนไลน์

29 พ.ย. 2563 | 11:16 น.

กสทช. เผยโอเปอเตอร์ร่วมทดสอบ ระบบ Mobile ID “แทนบัตร” ครบทุกราย หลังดึง ดีแทค-ทีโอที ร่วมต้น ธ.ค.นี้ คาดปี 64 สรรพากร นำร่องยื่นภาษีออนไลน์

      นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าภายในต้นเดือนธันวาคมนี้จะมีโอเปอเรเตอร์เข้ามาร่วมทดสอบระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ โมบาย ไอดี (Mobile ID) ภายใต้ชื่อ “แทนบัตร” ครบทุกราย โดยมี บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทคเข้ามาร่วมทดสอบเพิ่มอีก 2 ราย

      จากเดิมก่อนหน้านี้ กสทช. ได้ร่วมทำการทดสอบกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, บริษัทกสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแแคทเทเลคอม และบริษัททรู คอร์ปเรชัน จำกัด (มหาชน) โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนร่วมทดสอบ อาทิ กรมสรรพากร, ไปรษณีย์ไทย, สำนักงานประกันสังคม, กรมการขนส่งทางบก และเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น โดยภายใต้การทดสอบระบบดังกล่าวนั้น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐานในเรื่องการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการให้บริการ

      ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาส 1 ปี 2564 ระบบจะพร้อมในการทดสอบการให้บริการ โมบาย ไอดี กับประชาชนคาดว่าประมาณไม่เกิน 6 เดือน โดยจะต้องเพิ่มจำนวนของการกลุ่มทดสอบและติดตามประเมินผลระบบ เพื่อให้ออกมาปลอดภัยที่สุด เพราะเกี่ยวกับเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย หากทุกอย่างเรียบร้อยและประชาชนยินดีที่จะใช้บริการ ทางโอเปอเรเตอร์ก็จะนำไปพัฒนาต่อเพื่อให้บริการในเชิงพาณิชย์

     นางสาวจิตสถา กล่าวต่อไปว่าคาดว่าภายในปี 2564 จะเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สรรพากรที่จะมีการทดลองยื่นภาษีออนไลน์ การสมัครประกันสังคม หรือการสมัครใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ภาครัฐและเอกชนก็จะเข้ามาร่วมมือกันโดยในช่วงแรกจะไม่อนุญาตให้มีการเก็บค่าบริการเพราะทาง กสทช. เป็นผู้ลงทุนระบบในการทดลองใช้งานซึ่งประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับคือ ความสะดวกในการทำธุกรรมกับหน่วยงานหรือสถาบันการเงินต่างๆ หรืออาจจะเป็นในรูปแบบ QR Code แทนการใช้บัตรประชาชนตัวจริงโดยที่หน่วยงานสามารถพิสูจน์ตัวตนได้ ลดเรื่องการเปิดเผยเอกสารความลับด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงไปใช้ในการปลอมแปลงทำอย่างอื่นเพราะทุกวันนี้ในการทำธุรกรรมก็มีการใช้หมายเลขโทรศัพท์ในการอ้างอิงความเป็นเจ้าของ

 

: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,631 วันที่ 29 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2563