คนไทยเลิกติดหรู ยอมซื้อสมาร์ทโฟนตกรุ่น

นายธีริทธิ์​ เปาวัลย์ นักวิเคราะห์ตลาด อุปกรณ์ไคล์เอนด์ ดีไวซ์ บริษัทไอดีซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตลาดสมาร์ทโฟนมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในไตรมาส 4 โดยมองว่าไอโฟนใหม่หรือ ไอโฟน 12 ที่คาดว่าจะเปิดตัวราวเดือนพฤศจิกายน จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดให้เติบโตขึ้นท่ามกลางภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค และคาดว่าจะสามารถช่วยผลักดันส่วนแบ่งตลาดแอปเปิลเพิ่มเป็น 15% จากไตรมาส 2 มีส่วนแบ่งตลาด 10.6%

อย่างไรก็ตามมองว่า ภาพรวมพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal เปลี่ยนแปลงไป โดยมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าใหม่ตกรุ่น ที่ราคาถูกลง 30-40% และราคาไม่เกิน 10,000 บาทมากขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อลดลง ผู้บริโภคเลือกซื้อของจำเป็นที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น ไม่ได้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง หรือ แฟล็กชิป โมเดล เพื่อแสดงสถานะสังคม หรือเป็นผู้นำเทรนด์เหมือนที่ผ่านมา

สำหรับตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนล่าสุดในไทยนั้น ไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีตัวเลขประมาณ 4.3 ล้านเครื่อง เติบโตจากไตรมาสแรก 21.2% แต่หากเทียบกับปีที่แล้วลดลง 8.8% โดยแบรนด์ที่ขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งคือ วีโว่ โดยมีส่วนแบ่งตลาด 19.5% รุ่นราคาถูกอย่างตระกูล Y ซีรีส์ ทั้ง Y11 และ Y15 และรุ่นราคาระดับกลาง เช่น Y30 และ Y50 ได้รับการตอบรับดี ส่วนอันดับ 2 เป็นซัมซุง มีส่วนแบ่งตลาด 18.6% โดยรุ่น A71 เป็นรุ่นที่ขายดีในตลาด ทั้งซัมซุงยังมีแคมเปญมาเก็ตติ้ง ต่อเนื่อง ทั้ง Edu Buddy, Super Hot Sales, Butter to Go

ส่วนออปโป้ ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งไตรมาสแรก ตกลงมาอยู่ที่ 3 มีส่วนแบ่งตลาด 16.9% โดยออปโป้ มีการปรับขึ้นราคาสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในบางช่วงทำให้ยอดขายลดลง ขณะที่แบรนด์ที่มาแรง ขยับขึ้นมาอันดับ 4 แทนหัวเว่ย คือ เรียลมี โดยมีส่วนแบ่งตลาด 12.2% รุ่นราคาถูกของเรียลมี และรุ่น X50 Pro ได้รับการตอบรับจากตลาดต่างจังหวัดเป็นอย่างดี ส่วนอันดับ 5 คือ แบรนด์แอปเปิล มีส่วนแบ่งตลาด 10.6% โดย iPhone SE และ iPhone11 ได้รับความนิยมในช่วงโควิดที่ผ่านมา

 ด้านนายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP ผู้จัดงาน Thailand Mobile Expo 2020 กล่าวว่า วิกฤติโควิดที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้จ่าย และมีกำลังซื้อลดลง สมาร์ทโฟนรุ่นที่จะขายดีราคาจะอยู่ในหลักหมื่นต้นๆ ทีีมีฟีเจอร์ ฟังก์ชัน เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ใช่รุ่นไฮเอนด์ หรือ แฟล็กชิปโมเดล

 “มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด หรือ New Normal นั้นยังคงซื้อสมาร์ทโฟน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่จะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา โดยยอมซื้อรุ่นแฟล็กชิปโมเดล ที่ตกรุ่นแล้ว แต่ราคาถูกลง 20-30% ไม่ได้เลือกซื้อสมาร์ทโฟนเพื่อแสดงตัวตน หรือภาพลักษณ์อีกต่อไป ขณะที่ผู้ค้าเองก็พยายามทำราคาเพื่อผลักดันสินค้าเก่า ที่ค้างในสต็อกมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ออกมา”

นายโอภาส กล่าวต่อไปอีกว่าตลาดสมาร์ทโฟน โดยภาพรวมปีนี้จะชะลอตัวลงผู้ค้าสมาร์ทโฟนมีการปรับตัว โดยเสริมการขายโน้ตบุ๊กเข้ามาเพิ่ม ซึ่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนก็พยายามผลักดันสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊กเข้าสู่ตลาด  โดยตลาดโน้ตบุ๊ก กลับมาเติบโตขึ้นเพราะการรณรงค์ทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home และการเติบโตของตลาดเกม