EARTH HOUR 2025 ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ใน 5 แลนด์มาร์คกรุงเทพฯ 22 มี.ค.นี้

EARTH HOUR คืออะไร?.... EARTH HOUR หรือ กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่จัดขึ้นโดยองค์กรกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ World Wildlife Fund (WWF)

 

โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ธุรกิจ และสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วโลกร่วมกันปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความห่วงใยต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของโลก

 

 

ประวัติความเป็นมา EARTH HOUR

 

EARTH HOUR เริ่มต้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อประชาชนกว่า 2.2 ล้านคนและธุรกิจมากกว่า 2,100 แห่งพร้อมใจกันปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ความสำเร็จของกิจกรรมนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกิจกรรมระดับโลกในปีถัดมา

ในปี พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) กิจกรรม EARTH HOUR ได้ขยายไปสู่ 35 ประเทศทั่วโลก โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 50-100 ล้านคน และสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น โคลอสเซียมในกรุงโรม หอนาฬิกาบิ๊กเบนในลอนดอน หอไอเฟลในปารีส และสะพานโกลเด้นเกตในซานฟรานซิสโก ได้ร่วมปิดไฟเพื่อเป็นสัญลักษณ์

 

ปัจจุบัน EARTH HOUR ได้กลายเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 190 ประเทศและดินแดน รวมถึงสถานที่สำคัญกว่า 18,000 แห่งทั่วโลก

 

 

ความสำคัญของ EARTH HOUR

 

สร้างความตระหนักเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ EARTH HOUR ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปิดไฟเพียง 1 ชั่วโมงอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อมีผู้คนนับล้านทั่วโลกร่วมกันทำ ก็สามารถส่งผลต่อการลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน จุดมุ่งหมายของ EARTH HOUR ไม่ได้เพียงแค่การปิดไฟ 1 ชั่วโมงในวันเดียวเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังให้ผู้คนนำแนวคิดการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง

 

การรณรงค์นี้ต้องการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว เช่น การลดการใช้พลาสติก การประหยัดน้ำและพลังงาน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

สร้างพลังร่วมระดับโลก EARTH HOUR เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระดับโลก ที่แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ไม่มีพรมแดน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไข การที่ผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรม ศาสนา และภูมิภาคสามารถรวมตัวกันเพื่อจุดประสงค์เดียวกันนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระดับโลกที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

 

 

กระตุ้นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและนโยบาย กิจกรรม EARTH HOUR ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและผู้นำทางการเมืองทั่วโลก ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ในหลายประเทศ กิจกรรมนี้ได้นำไปสู่การออกกฎหมายและนโยบายที่เข้มงวดขึ้นในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

 

รูปแบบการจัดกิจกรรม EARTH HOUR

 

กิจกรรม EARTH HOUR จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมักจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ในวันเสาร์สุดท้ายของเดือน ระหว่างเวลา 20.30-21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ รูปแบบของกิจกรรมจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่มีองค์ประกอบหลักที่เหมือนกัน คือ

 

การปิดไฟในสถานที่สำคัญ สถานที่สำคัญและอาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือประเทศต่างๆ จะปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ เช่น หอไอเฟล ในปารีส โคลอสเซียม ในโรม เอ็มไพร์สเตทบิลดิ้ง ในนิวยอร์ก และโอเปร่าเฮาส์ ในซิดนีย์

 

กิจกรรมชุมชน ในหลายเมืองทั่วโลก มีการจัดกิจกรรมชุมชนในช่วง EARTH HOUR เช่น คอนเสิร์ตเทียนไข การปั่นจักรยานเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า การจัดงานเลี้ยงใต้แสงเทียน หรือการจัดกิจกรรมทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ

 

การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแชร์ภาพถ่ายหรือวิดีโอของตนเองในระหว่างการปิดไฟผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้แฮชแท็ก #EarthHour หรือแฮชแท็กเฉพาะของแต่ละปี เพื่อกระตุ้นให้ผู้อื่นร่วมกิจกรรมและสร้างความตระหนักในวงกว้าง

 

การให้คำมั่นสัญญาเพื่อโลก (Beyond the Hour) WWF ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้คำมั่นสัญญาที่จะทำมากกว่าแค่การปิดไฟ 1 ชั่วโมง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การประหยัดน้ำ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการเลือกบริโภคอาหารที่ผลิตอย่างยั่งยืน

 

 

EARTH HOUR ในประเทศไทย

 

ประเทศไทยได้เข้าร่วมกิจกรรม EARTH HOUR อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดย WWF ประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนและองค์กรต่างๆ ร่วมปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง

 

ในแต่ละปี สถานที่สำคัญต่างๆ ในประเทศไทยได้เข้าร่วมปิดไฟเพื่อเป็นสัญลักษณ์ เช่น วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร พระบรมมหาราชวัง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สนามหลวง สะพานพระราม 8 อาคารมหานคร (คิง เพาเวอร์ มหานคร) และศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ

 

 

ในปี 2568 กรุงเทพมหานครได้กำหนด Landmark สำคัญ 5 แห่งเพื่อร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 20.30 - 21.30 น. ได้แก่

 

1. พระบรมมหาราชวัง (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)
2. วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร
3. สะพานพระราม 8
4. เสาชิงช้า
5. ภูเขาทอง (วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร)

 

ผลกระทบและความสำเร็จของ EARTH HOUR

 

ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา EARTH HOUR ได้สร้างผลกระทบที่สำคัญในหลายด้าน ดังนี้

 

1. การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ในหลายประเทศทั่วโลก การปิดไฟในช่วง EARTH HOUR ได้ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ 

 

2.การสร้างความตระหนักในวงกว้าง EARTH HOUR ได้ช่วยสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้กับผู้คนนับล้านทั่วโลก ผ่านการรายงานข่าวและการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์

 

 

3.การขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ในหลายประเทศ EARTH HOUR ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น

• ในประเทศอาร์เจนตินา กิจกรรม EARTH HOUR นำไปสู่การประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองทะเล
• ในฟิลิปปินส์ กิจกรรมนี้นำไปสู่การประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลในเมืองเดาเต
• ในรัสเซีย EARTH HOUR ช่วยผลักดันให้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มครองป่าไม้และสัตว์ป่า

 

4.การสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ EARTH HOUR ได้จุดประกายให้เกิดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ มากมาย เช่น โครงการ Earth Hour Forest ที่มีการปลูกต้นไม้หลายล้านต้นทั่วโลก โครงการ Earth Hour City Challenge ที่ส่งเสริมให้เมืองต่างๆ พัฒนานโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และโครงการรณรงค์ลดการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน

 

การมีส่วนร่วมในกิจกรรม EARTH HOUR

 

ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรม EARTH HOUR ได้หลายวิธี ดังนี้

 

1.ปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ในวันและเวลาที่จัดกิจกรรม EARTH HOUR (วันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคม เวลา 20.30-21.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น) คุณสามารถร่วมปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นในบ้านหรือสถานที่ทำงานของคุณ

 

2.จัดกิจกรรมในช่วง EARTH HOUR คุณสามารถจัดกิจกรรมในช่วง EARTH HOUR เช่น การนั่งรับประทานอาหารใต้แสงเทียน การเล่นดนตรีอะคูสติก การเล่าเรื่องหรือการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆ

 

3.แชร์ประสบการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ คุณสามารถแชร์ภาพถ่ายหรือวิดีโอของกิจกรรมที่คุณทำในช่วง EARTH HOUR ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยใช้แฮชแท็กอย่างเป็นทางการ เพื่อกระตุ้นให้ผู้อื่นร่วมกิจกรรมและสร้างความตระหนักในวงกว้าง

 

4.ให้คำมั่นสัญญาเพื่อโลก คุณสามารถให้คำมั่นสัญญาที่จะทำมากกว่าแค่การปิดไฟ 1 ชั่วโมง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น

• ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
• ประหยัดน้ำและพลังงาน
• ใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือจักรยานแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว
• เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• ลดการบริโภคเนื้อสัตว์และเลือกบริโภคอาหารที่ผลิตอย่างยั่งยืน
• สนับสนุนองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติ

 

รวมทั้งเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครด้านสิ่งแวดล้อม คุณสามารถเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้ การทำความสะอาดชายหาดหรือพื้นที่สาธารณะ การรีไซเคิล หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ชุมชน