ขนาดกองทุน“วายุภักษ์ 1”ยังเอาหุ้นไทยไม่อยู่?!?

19 มี.ค. 2568 | 07:00 น.

ขนาดกองทุน“วายุภักษ์ 1” ยังเอาหุ้นไทยไม่อยู่?!? : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

***ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยได้มาถึงยุค “ซบเซา” ชนิดที่ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนที่เก่งมาจากไหน ต่างก็พากันส่ายหัว จนถูกโจมตีว่า ตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดในโลก 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ดัชนีหุ้นไทยทำสถิติถอยหลังลงต่อเนื่องติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์ ถึงกับทำให้ตีความได้ว่า ใครก็ตามที่ถมเงินเข้ามาในตลาดหุ้นไทย หากไม่เล่นรอบสั้นแบบซื้อเช้าขายบ่าย อาจจะต้องติดลบ หรือ ขาดทุนภายในเวลา 3 วันเลยทีเดียว!!!

เมื่อตลาดหุ้นไทยตกต่ำสุดขีด ทำให้มีคำถามไปถึงเครื่องมือ (Tooling) ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูตลาดหุ้นไทย อย่าง “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ซึ่งเคยประกาศว่าจะเป็น “กองทุนพยุงหุ้นแห่งชาติ” ว่า ตอนนี้ขนาดนกฟีนิกแห่งไฟ ที่ไม่มีทางตาย ก็ยังเอาไม่อยู่… 

หากยังพอจำกันได้ วัตุประสงค์เริ่มแรกของการตั้ง “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” เป็นไปเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น บริษัทที่อยู่ใน SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป หรือหากเป็นบริษัทนอก SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ที่สูงกว่า ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หุ้นจำนวนมากกว่า 100 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ หรือ คิดเป็นราว 15% จากทั้งหมด 800 กว่าตัว มีโอกาสที่จะได้รับอานิสงส์จาก “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ไปอย่างถ้วนหน้า 

แต่จากที่เจ๊เมาธ์ค้นหาข้อมูล ล่าสุดพบว่า “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” เข้าไปลงทุนในหุ้นตัวใดบ้าง หากดูเผินๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากลงรายละเอียดโดยเข้าไปดู จะพบว่า ใน 60 อันดับหุ้นที่วายุภักษ์ 1 ถืออยู่ มีหลายตัวเป็นหุ้นที่ราคาหุ้นปรับร่วงลงหนักมาก นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา 

อย่างเช่น DELTA ที่มีอยู่ถึง 111 ล้านหุ้น IVL ที่มีกว่า 56 ล้านหุ้น PTTGC ที่มีอยู่ 50 ล้านหุ้น WHA ที่มีอยู่ 178 ล้านหุ้น หรือ AOT ที่มีอยู่ 180 ล้านหุ้น และ TRUE ที่มีกว่า 624 ล้านหุ้น โดยหุ้นที่ว่ามาเหล่านี้ส่วนใหญ่ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาพบว่าราคาหุ้นปรับร่วงลงหนักมากแทบทุกตัว 
หมายความว่า ขณะนี้ “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ก็กำลังทัดทานไม่ไหว…แรงขายหนักมากจนไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะฟื้น!!!!

ล่าสุดมีข่าวว่ากองทุน ThaiESG กำลังถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ (Tooling) ตัวใหม่อีกตัว เพื่อช่วยตล่าดหุ้นไทย หลังจากในเดือนมกราคม 2025 ข่าวว่ายอดขาย LTF กำลังส่งแรงกดดันมาที่ตลาดหุ้นไทย ซึ่งแม้แรงขาย LTF อาจไม่ใช่ทั้งหมดของการร่วงลงของหุ้นไทย  

แต่ดูเหมือนการที่รัฐบาลพยายามแก้เกมด้วยการแปลง LTF เป็นกองทุน ThaiESG โดยนักลงทุนสามารถโยกหน่วยลงทุนจาก LTF ไปยังกองทุน Thai ESG ได้โดยอัตโนมัติ ก็อาจช่วยลดแรงขายในตลาดหุ้นในระดับหนึ่ง  

นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของเครื่องมือ (Tooling) ตัวใหม่อย่างกองทุน ThaiESG ยังอาจสามารถ “เบี่ยงเบนจุดสนใจ” ของคำถามเกี่ยวกับ “กองทุนรวมวายุภักษ์ 1” ที่ตอนนี้แทบไม่มีบทบาทในตลาดหุ้นได้อีกด้วย....

แต่เช่นเดียวกัน เป็นที่รู้กันว่า ThaiESG ก็ไม่ได้ดีเลิศไปทุกอย่าง ทั้งนี้อาจส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ESG โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก (Small Cap) ถูกเทขาย และพลาดโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติม จนส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงแรงเช่นเดียวกับที่ TRUE เพิ่งจะได้รับผลกระทบนั่นเอง 

มาถึงตอนนี้เจ๊เมาธ์คงยังเชื่อว่า ปัญหาของตลาดหุ้นไทย ไม่ได้มาจากการขาดเครื่องมือ (Tooling) แต่ขณะนี้สิ่งที่ตลาดหุ้นไทยกำลังขาดมากที่สุด คือ ความเชื่อมั่น (Confidence) หากรัฐยังไม่สามารถดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้...ไม่ว่าเครื่องมือที่มีและใช้ จะดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์เจ้าค่ะ