คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้ประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567” หรือไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 รอบแรก เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2567 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา
โดยกำหนดรับซื้อไฟฟ้าเฉพาะไฟฟ้าจากพลังงานลม ไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ และไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ รวมเป็น 2,180 เมกะวัตต์ โดยจะเน้นให้สิทธิ์ผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกในโครงการไฟฟ้าสีเขียว เฟสแรก แต่ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคขั้นต่ำ และได้รับการประเมินความพร้อมตามเกณฑ์คะแนนคุณภาพแล้ว ซึ่งมีทั้งสิ้น 198 ราย จะได้รับสิทธิ์ในการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 นี้ก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนอัตรารับซื้อไฟฟ้าพลังงานลมอยู่ที่ 3.1014 บาทต่อหน่วย และไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มอยู่ที่ 2.1679 บาทต่อหน่วย
สำหรับโครงการไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 รอบแรกนี้ เกิดขึ้นหลังจาก กกพ. เปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟสแรก ไปเมื่อเดือน เม.ย. 2566 โดยมีเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้า 5,203 เมกะวัตต์ แต่มีผู้ผ่านเข้าร่วมโครงการในเฟสแรกทั้งสิ้น 175 ราย ปริมาณไฟฟ้ารับซื้อรวม 4,852.26 เมกะวัตต์ แต่เนื่องจากยังมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการอีกจำนวนมาก ทาง กพช. ในสมัยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงมีมติให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 โดยมีเป้าหมายรับซื้อ 3,668.5 เมกะวัตต์
ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังจากการเลือกตั้ง และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กระบวนการเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ที่ยังคงดำเนินต่อไป โดย กบง. เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2567 จึงได้กำหนดให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 รอบแรก จำนวน 2,180 เมกะวัตต์ ดังกล่าวก่อน จากนั้นจึงจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวที่เหลืออีกประมาณเกือบ 1,500 เมกะวัตต์ ในรอบต่อไป แต่ล่าสุด นายพีระพันธุ์ ได้สั่งการให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 ดังกล่าวแล้ว
สำหรับไฟฟ้าสีเขียวเฟสแรก ได้เปิดรับซื้อไฟฟ้าไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. 2566 จำนวน 4,852.26 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มรวมกับระบบกักเก็บพลังงาน 994.06 เมกะวัตต์ , ไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์ม 2,368 เมกะวัตต์ ,ไฟฟ้าจาก๊าซชีวภาพ ไม่มีผู้ผ่านเกณฑ์ และไฟฟ้าพลังงานลม 1,490.20 เมกะวัตต์ จาก 22 โครงการ ซึ่งในส่วนของไฟฟ้าพลังงานลม มีผู้ขอยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลาง ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับการพิจารณาทั้ง 22 โครงการ ยังไม่สามารถผลิตไฟฟ้าเข้าระบบได้ และต้องรอผลพิจารณาตัดสินของศาลปกครองกลางให้เสร็จสิ้นก่อน
อย่างไรก็ดี ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 25 ธ.ค. 2567 มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ FiT ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดสำหรับปี 65 –73 ปริมาณรวม 3,668.5 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ กพช. ได้เห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้มองว่าด้วยปัจจัยดังกล่าวเป็นผลให้ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในวันนี้ปรับตัวลดลง มากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ
จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับบริษัทที่รับผลกระทบจากการชะลอโครงการดังกล่าวพบว่า ประกอบด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง