"ราคาน้ำมัน2568" แพง-ถูกผ่านมุมมอง "ศ.ดร.พรายพล" ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน

06 ธ.ค. 2567 | 15:19 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ธ.ค. 2567 | 16:51 น.

"ราคาน้ำมัน2568" แพง-ถูกผ่านมุมมอง "ศ.ดร.พรายพล" ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ฐานเศราฐกิจรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้แล้วที่นี่ จับตานโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ตัวแปรสำคัญตัดสินอนาคต

ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการอิสระ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวโน้มราคาพลังงานปี 2568 ว่า น่าจะผันผวนมากเป็นพิเศษ หรือเรียกว่าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากการเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะทำให้มีการส่งเสริมการผลิต รวมถึงส่งออกน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งการผลิตที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง 

ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแนวทางดังกล่าวน่าจะทำให้ราคาน้ำมัน และก๊าซฯมีความเป็นเสถียรภาพ และมีแนวโน้มลดต่ำลงได้ แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายหลายภาคส่วนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นทางการค้า หรือการเมืองระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์กับประเทศอื่นยังไม่นิ่ง 

อีกทั้ง ยังเชื่อว่าภาวะสงครามในยูเครน และตะวันออกลางก็ยังคงมีความครุกรุ่น โดยปัจจัยดังกล่าวเหล่านั้นน่าจะทำให้มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่มีใครทราบอย่างแน่นอนว่าแนวโน้มจะเป็นไปในทิศทางใด
 

อย่างไรก็ดี หากสงครามสามารถสงบได้เหมือนดังที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ระบุไว้ ทั้งที่ยูเครน และตะวันออกกลางหากไม่ลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาน้ำมัน และก๊าซฯที่ไม่ค่อยสูงมากนัก หรือมีแนวโน้มไปในทิศทางค่อนข้างต่ำ

"ราคาน้ำมัน" ปี 68 แพง-ถูกผ่านมุมมอง "ศ.ดร.พรายพล" ผู้เชี่ยวชาญพลังงาน

"ราคาน้ำมันคาดการณ์ค่อนข้างยาก แต่แนวโน้มโดยเฉลี่ยในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าเงื่อนไขขึ้นอยู่กับภาวะสงครามโดยเฉพาะที่ยูเครน หากสามารถสงบได้ มีการยุติ เจรจากัน ความสัมพันธ์กับรัสเซียราบรื่นขึ้นก็เป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ส่วนที่ตะวันออกกลางน่าจะยุติยาก เพียงแต่อย่าให้ลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่"

ศ.ดร.พรายพล กล่าวอีกว่า หากสงครามในตะวันออกกลางลุกลามมากกว่าที่เป็นอยู่ ไปสู่อิหร่าน อิรัก หรือที่เรียว่าสงครามขยายวงกว้างออกไปก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างมาก
 

อย่างไรก็ตาม หากถามว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะอยู่ที่ระดับเท่าไหร่นั้น ในความคิดเห้นส่วนตัวมองว่าหากแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ลดลงน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล หากราคาผัวผวนก็จะขึ้นไปถึงระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล โดยหากสงครามในตะวันออกกลางปะทุขึ้นราคาก็จะพุ่งเกิน 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล

ด้านทิศทางค่าไฟในประเทศไทยปี 68 หากรัฐบาลมีการอุดหนุน โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระหนี้ต่อ ราคาก็คงไม่เพิ่มขึ้นเท่าใดนัก ส่วนงวดต่อไปหลังจากงวด ม.ค.-เม.ย. 68 ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องของราคาน้ำมัน และก๊าซฯในตลาดโลกว่าจะมีความผันผวนมากน้อยเพียงใด แต่หากสงครามมีความสงบ หรือยุติลงก็มีความเป็นไปได้ว่า ราคาน้ำมันก๊าซฯ โดยเฉพาะ LNG น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ เพราะเชื่อว่าสหรัฐฯ น่าจะเร่งผลิตเพื่อส่งออกให้ได้มากที่สุดภายใต้นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะให้ไทยได้รับอนิสงส์ในการควบคุมราคาค่าไฟได้ตามไปด้วย