นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) มีมติให้โรงงานน้ำตาลเริ่มเปิดหีบอ้อย ฤดูการผลิตปี 2567/68 ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
ซึ่งนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้ลงนามประกาศวันเปิดหีบอ้อย และ สอน. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ เพื่อสื่อสารให้ชาวไร่อ้อยเตรียมความพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวอ้อยในฤดูการผลิตปี 2567/68 แล้ว
นอกจากนี้ บอร์ด กอน. ยังมีมติออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นมาตรการรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากมาตรการในอดีตที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการลักลอบเผาอ้อยได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่ามาตรการใหม่นี้จะสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% ผ่านกลไกการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับใบและยอดอ้อย
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายใบและยอดอ้อย โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอของบประมาณจากรัฐบาลประมาณ 7,000 ล้านบาท เพื่อให้การสนับสนุนและดูแลเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี โดยชาวไร่อ้อยจะมีรายได้เพิ่มประมาณ 120 บาทต่อตันอ้อย และถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการแจ้งมาตรการก่อนการเปิดหีบอ้อย
อย่างไรก็ดี บอร์ด กอน. ได้มีมติเห็นชอบมาตรการป้องปรามการลักลอบเผาอ้อย โดยกำหนดให้หักเงินชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยถูกลักลอบเผาในแต่ละวันเป็นรายโรงงาน จากเดิมถูกหักเงินจำนวน 30 บาท/ตันอ้อย เป็นถูกหักเงิน 30 - 130 บาท/ตันอ้อย ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการลักลอบเผาอ้อยได้อย่างมีนัยสำคัญ
อีกทั้งบอร์ด กอน. ยังได้เห็นชอบแนวทางการยกระดับผลผลิตในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ผ่านการกำหนดประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานน้ำตาลให้ได้ปริมาณน้ำตาลตามมาตรฐานที่กำหนด และโรงงานน้ำตาลสามารถปฏิเสธการรับอ้อยที่มีสิ่งปนเปื้อน อ้อยยอดยาว อ้อยที่มีกาบใบ และอ้อยที่ถูกเผา ซึ่งเกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องให้ความร่วมมือในการผลิตและนำส่งอ้อยสดคุณภาพดีให้กับโรงงานน้ำตาล เพื่อให้เกิดรายได้ที่มากที่สุดกับระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
"เชื่อว่ามาตรการใหม่นี้จะสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสด เห็นคุณค่าและประโยชน์ของใบและยอดอ้อย และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะช่วยลดการเผาอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน และเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งยกระดับผลผลิตของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่อย่างยั่งยืน”