นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ดำเนินการยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่เกณฑ์ผลสัมฤทธิ์ทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้โครงการ I-EA-T Sustainable Business : ISB
โดยการนำมาตรฐานสากลมาใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาให้เหมาะสมแก่อุตสาหกรรมไทย ยกระดับขีดความสามารถและภูมิคุ้มกันที่ดี ในการพัฒนาธุรกิจสร้างคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในปี 2566 ภายใต้กลยุทธ์ขยาย IMPACT โครงการฯ 4 กลยุทธ์ ได้แก่
และที่สำคัญคือโอกาสในการได้รับรางวัล ISB Awards และเตรียมความพร้อมสู่การประกวดรางวัล ในระดับอื่น ๆ เช่น รางวัล Prime Minister’s Award เป็นต้น
“โครงการ ISB เป็นการส่งเสริมมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน (หรือ CSR-DIW) รวมถึงมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (หรือ Eco Factory) ด้วยการยกระดับเกณฑ์ปฏิบัติที่ดีตามกรอบความรับผิดชอบต่อสังคมของโรงงาน สู่การสะท้อนผลสัมฤทธิ์ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตและก้าวไปข้างหน้า ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล”
นางปนัดดา รุ่งเรืองศรี รองผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการ ISB ในปี 2566 เป็นการส่งเสริมความร่วมมือในระดับหน่วยงานภาคีสำคัญ ได้แก่ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. และผู้พัฒนานิคมฯ ให้เป็นตัวแทนISB Accelerator กว่า 30 นิคมอุตสาหกรรม เพื่อนำมาตรฐานดังกล่าวไปสู่ผู้ประกอบการ สะท้อนมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ และยกระดับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจเทียบเท่ามาตรฐานสากล ISB Assessor กว่า 50 ราย มีผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียนเป็นธุรกิจยั่งยืน (ISB Lists) กว่า 10 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือข่ายพันธมิตร ISB Community กว่า 11 ภาคีพันธมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินกิจการที่ดีอีกด้วย
สำหรับโครงการ ISB ปี 2566 เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง นิคม และ โรงงานเปรียบเสมือนรากฐานที่มั่นคงในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและความเป็นกลางทางคาร์บอนตามเป้าหมายของรัฐบาล