"ปตท.สผ.-กรมประมง"สร้างสมดุลทรัพยากรประมงลดสภาวะโลกร้อน

13 ก.ย. 2566 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2566 | 08:20 น.

"ปตท.สผ.-กรมประมง"สร้างสมดุลทรัพยากรประมงลดสภาวะโลกร้อน เดินหน้าศึกษาวิจัยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นหินแร่ในปะการังเทียม มุ่งรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.ได้ดำเนินการร่วมกับกรมประมงศึกษาวิจัยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นหินแร่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของปะการังเทียม และนำไปใช้เพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเล

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อการประมง ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ รวมถึงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ของประเทศในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยลดปัญหาสภาวะโลกร้อนไปพร้อมกัน

ปตท.สผ. ได้ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและมุ่งไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 

โดยหนึ่งในแนวทางที่ ปตท.สผ. ให้ความสำคัญคือการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งปตท.สผ. ได้พัฒนาเทคโนโลยีในการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตในชั้นปูน เพื่อนำมาประยุกต์และจัดสร้างเป็นปะการังเทียม ที่มีความแข็งแรงและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม 

ปตท.สผ.-กรมประมงสร้างสมดุลทรัพยากรประมงลดสภาวะโลกร้อน

"เทคโนโลยีดังกล่าวนอกจากจะช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยังช่วยในการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล เพิ่มพื้นที่แหล่งปะการังซึ่งเป็นแหล่งอาศัยและอนุบาลสัตว์น้ำ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล"

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเล กรมฯได้ดำเนินโครงการจัดสร้างปะการังเทียมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 เพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เลี้ยงตัว วางไข่ และหลบภัยของสัตว์น้ำ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ท้องทะเล 
 

รวมทั้งเป็นการพัฒนาแหล่งทำการประมงพื้นบ้าน ทำให้ชาวประมงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยในปัจจุบันกรมประมงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทรัพยากรประมงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยปัญหาสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อภาคการประมงเป็นหนึ่งภารกิจที่กรมประมงมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ รัฐบาลไทยได้กำหนดให้เป็นนโยบายสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ ในส่วนของภาคการประมงได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนเช่นกัน 

"จากงานวิจัยได้รายงานว่า สภาวะโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น เพิ่มความเครียดต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมในปลาทำให้ยากต่อการสืบพันธุ์ และเจริญเติบโต การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการยกระดับเทคโนโลยีมาช่วยฟื้นฟูทรัพยากรประมงทะเลของไทยให้มีความยั่งยืนในอนาคต"