“ภาวะโลกร้อน”เชื่อมโยงโดยตรงกับการอยู่รอดของ “หมีขั้วโลก”

02 ก.ย. 2566 | 20:45 น.

นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษา เเละพบข้อมูลว่า “ภาวะโลกร้อน”มีเชื่อมโยงโดยตรงกับการสืบพันธุ์เเละการอยู่รอดของ “หมีขั้วโลก”

ข้อมูลล่าสุดที่พบว่า “ภาวะโลกร้อน”เชื่อมโยงโดยตรงกับการอยู่รอดของ “หมีขั้วโลก” มาจากนักวิทยาศาสตร์ที่กล่าวว่า พวกเขาพบความเชื่อมโยงระหว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของมนุษย์กับการสืบพันธุ์และอัตราการรอดชีวิตของหมีขั้วโลกเป็นครั้งแรกในการศึกษาใหม่

เเละนี่อาจเอาชนะอุปสรรคในการปกป้องสายพันธุ์นี้ได้ เพราะก่อนหน้านั้น หมีขั้วโลกถูกระบุว่า "ถูกคุกคาม" เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่เกิดจากมนุษย์ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐฯ หรือ ESA ในปี 2008 แต่กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐฯ ระบุในขณะนั้นว่าเนื่องจากภัยคุกคามต่อสัตว์บางชนิดไม่สามารถเชื่อมโยงโดยตรงกับแหล่งที่มาของก๊าซเรือนกระจกได้ 

หมีขั้วโลกอยู่ใน 19 กลุ่มประชากรทั่วอาร์กติก และพบได้ในแคนาดา สหรัฐอเมริกา รัสเซีย กรีนแลนด์ และนอร์เวย์ ตามรายงานขององค์กรอนุรักษ์ Polar Bears International

ประชากรเหล่านี้จะอาศัยอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างและหลากหลาย แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ "แผ่นน้ำแข็ง" ที่สามารถเข้าถึงเหยื่อซึ่งเป็นแมวน้ำ 2 สายพันธุ์ สตีเวน อัมสตรัป ผู้ร่วมวิจัย หัวหน้านักวิทยาศาสตร์กิตติมศักดิ์ของ Polar Bears International กล่าว

เมื่อน้ำแข็งในทะเลละลายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นตัวเร่ง หมีขั้วโลกจึงถูกบังคับให้ขึ้นบกโดยปราศจากอาหารและต้องอยู่รอดด้วยไขมันที่สะสมไว้ล่วงหน้า และเมื่อมีเวลาหลายวันมากขึ้นในการถูกบังคับให้ต้องออกไปโดยไม่มีอาหารเป็นเวลานานจนทำให้ไขมันสะสมหมดสิ้น สิ่งนี้นำไปสู่การลดลงของประชากรในที่สุด ขณะที่การศึกษา ในปี 2020 พบว่าจำนวนวันอดอาหาร ซึ่งพิจารณาจากจำนวนวันที่ไม่มีน้ำแข็งทุกฤดูร้อน ส่งผลโดยตรงต่อการอยู่รอดของหมีขั้วโลก

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าหมีขั้วโลกส่วนใหญ่อาจสูญพันธุ์ได้ในช่วงปลายศตวรรษ เว้นแต่ภาวะโลกร้อนจะถูกจำกัดไว้

นักวิจัย ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างระยะเวลาที่หมีขั้วโลกอดอาหารกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมแต่ละกิกะตัน ซึ่งช่วยให้สามารถคำนวณผลกระทบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อการอยู่รอดของหมีขั้วโลกในอนาคตได้  หมายความว่า การศึกษาใหม่ได้ก้าวไปอีกขั้นและวัดจำนวนวันที่อดอาหารโดยปราศจากน้ำแข็งซึ่งมีสาเหตุมาจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ นั่นเอง 

นักวิจัยจาก Polar Bears International, University of Washington และ University of Wyoming วิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างจำนวนวันที่ปราศจากน้ำแข็งที่หมีขั้วโลกต้องอดทนกับปริมาณมลพิษที่ทำให้โลกร้อนซึ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในวารสาร Science พบว่าเป็นอัตราการรอดชีวิตของหมีขั้วโลกที่สอดคล้องกันในบางประชากร (งานวิจัย Unlock the Endangered Species Act to address GHG emissions)

ผลกระทบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

นักวิจัยศึกษาประชากรของหมีขั้วโลกอย่างน้อย 10 ปีโดยไม่มีน้ำแข็ง ตั้งแต่ปี 1979 เป็นช่วงที่มีภาพถ่ายดาวเทียมของน้ำแข็งในทะเลเป็นครั้งแรก จนถึงปี 2020 พบว่าจำนวนวันที่หมีขั้วโลกถูกบังคับให้ออกไปโดยไม่มีอาหารเพิ่มขึ้นตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สะสม

ตัวอย่างเช่น หมีขั้วโลกในทะเลชุกชีในมหาสมุทรอาร์คติกอดอาหารเป็นเวลาประมาณ 12 วัน ในปี 1979 และเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 137 วันในปี 2020 เเละยังมีข้อมูลว่าการอดอาหารเพิ่มขึ้นอีกวันสำหรับทุก 14 กิกะตันของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ

"หมีในพื้นที่แผ่นน้ำแข็งเคยคงอยู่นานกว่าในฤดูร้อน เเต่ขณะนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันซึ่งจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ ในกรณีที่ถูกบังคับให้ต้องอดอาหารหลายวันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน" อัมสตรัป บอกกับ CNN

ผลการศึกษาในปี 2020 ที่ อัมสตรัปมีส่วนร่วมพบว่าจำนวนวันที่หมีสามารถอยู่รอดได้โดยไม่มีอาหารจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและสภาพของสัตว์ แต่ยิ่งมีวันที่ปราศจากน้ำแข็งมากเท่าไร การสืบพันธุ์และการอยู่รอดก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น

“เมื่อมีการเขียนบันทึกของกระทรวงมหาดไทย ในปี 2008 เราไม่สามารถบอกได้ว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับการลดลงของประชากรหมีขั้วโลกอย่างไร แต่ภายในไม่กี่ปี เราก็สามารถเชื่อมโยงปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับภาวะโลกร้อนและการสูญเสียน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกได้โดยตรงเช่นกัน” ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์บรรยากาศแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ 

ตัวอย่างเช่น การศึกษาได้ตั้งข้อสังเกตว่า โรงไฟฟ้าแต่ละแห่งจากหลายร้อยแห่งในสหรัฐอเมริกาปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบ 2 กิกะตันในแต่ละปี เท่ากับว่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 กิกะตันในช่วงอายุ 30 ปีของหมีขั้วโลกในทะเลโบฟอร์ตตอนใต้ ซึ่งเป็นทะเลชายอาณาเขต ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอาร์กติก

หมีจะต้องอดอาหารเป็นพิเศษทุกๆ 23 กิกะตันของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นอัตราการรอดชีวิตของจะลดลงประมาณ 4% ตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโรงไฟฟ้าในช่วงเวลานั้น ตามการศึกษาวิจัย

เคิร์สเตน ซิกเฟลด์ ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศจากมหาวิทยาลัยไซมอน เฟรเซอร์ ในแคนาดา กล่าวว่างานวิจัยชิ้นใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เป็นไปได้ แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“ยิ่งเราผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมของมนุษย์มากเท่าไร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น การศึกษาใหม่นี้ยังนำไปใช้กับผลกระทบต่อระบบนิเวศด้วย” ซิกเฟลด์ กล่าว

อ้างอิง 

Scientists say they’ve found a direct link between planet-warming pollution and polar bear survival (1)

Scientists say study found a direct link between greenhouse gas emissions and polar bear survival (2)

Scientists link greenhouse gas emissions to polar bear population declines