zero-carbon

เหรียญสองด้าน “พลังงานนิวเคลียร์” ความหวังพลังงานสะอาดสู่ Net Zero

    เหรียญสองด้าน “พลังงานนิวเคลียร์” กับความหวังของพลังงานสะอาดสู่ เป้าหมายกาซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero

ท่ามกลางการมุ่งสู่เป้าหมาย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2593 (ค.ศ.2050)  "พลังงานนิวเคลียร์" ถูกกล่าวถึงว่าเป็นหนทางในการลดช่องว่างพลังงาน โดยบอกว่า พลังงานนิวเคลียร์ไม่เพียงแต่สะอาดเท่านั้น ยังมีความน่าเชื่อถือและเอาชนะพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานแสงอาทิตย์ 

“คุณจะจัดหาพลังงานราคาถูก เชื่อถือได้ และปราศจากมลภาวะสำหรับโลกที่มีประชากรจำนวน 8 พันล้านคนได้อย่างไร พลังงานนิวเคลียร์เป็นเพียงเวอร์ชันเดียวที่สามารถปรับขนาดได้ พลังงานหมุนเวียนไม่น่าเชื่อถือ” Michael Shellenberger ผู้ก่อตั้งองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Progress กล่าวกับ สำนักข่าว CNBC 

มุมมองของ ผู้ก่อตั้งองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Progress ยังสะท้อนให้เห็นว่า พลังงานหมุนเวียนกำลังถึงขีดจำกัดในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าพลังน้ำไม่สามารถใช้ได้ในทุกประเทศ และประเทศที่มีพลังงานไฟฟ้าเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ซึ่งหมายความว่าจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินหรือทรัพยากรน้ำอีกต่อไป เเต่พลังงานนิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่ดี มีขยะจำนวนน้อยมาก จัดการง่าย ไม่ทำร้ายใคร มีต้นทุนที่ต่ำมาก นั่นคือเหตุผลที่ประเทศต่างๆ กำลังพิจารณาเรื่องพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง

"เพราะพลังงานหมุนเวียนไม่สามารถพาเราไปในที่ที่เราต้องไปได้ และประเทศต่างๆ ต้องการปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล"

ข้อมูลจาก schroders เมื่อ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ระบุว่า รัฐบาลต่างๆ เริ่มทุ่มเงินเข้าสู่ภาคส่วนนี้มานานหลายปี โดยมีความมุ่งมั่นทางการเมืองในทศวรรษที่กำลังจะมาถึง รวมถึงแผนการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ใหม่หลายร้อยเครื่องทั่วโลก โดยประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก 5 แห่ง ได้แก่ สหรัฐฯ อินเดีย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และจีน ได้ประกาศเป้าหมายในการเพิ่มกำลังผลิตนิวเคลียร์อย่างมีนัยสำคัญ และในเยอรมนี ข้อยกเว้นการต่อต้านนิวเคลียร์เริ่มอ่อนลง

ตามรายงานยังระบุด้วยว่า มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 486 เครื่องที่วางแผน เสนอ หรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง ณ เดือนกรกฎาคม ซึ่งคิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 65.9 พันล้านวัตต์ ถือเป็นปริมาณกำลังการผลิตไฟฟ้าที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมนับตั้งแต่ปี 2015

เเละมีการตั้งข้อสังเกตว่าพลังงานนิวเคลียร์ไม่เพียงแต่สามารถปรับขนาดได้ แต่ยังสะอาดกว่ามาก โดยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าเพียง 10-15 กรัมต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถแข่งขันกับทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และดีกว่าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติอย่างมาก ทั้งยังเป็นยังเป็นแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำอันดับ 2 รองจากพลังงานน้ำ มากกว่าพลังงานลมและแสงอาทิตย์รวมกัน 

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ ได้เตือนว่าพลังงานนิวเคลียร์ มีความเสี่ยงที่จะลดลงในอนาคต รายงานในปี 2019 ระบุว่า พลังงานนิวเคลียร์เริ่มจางหายไป โดยโรงงานปิดตัวลงและมีการลงทุนใหม่เพียงเล็กน้อย ในยามที่โลกต้องการไฟฟ้าคาร์บอนต่ำมากขึ้น 

ความปลอดภัยทางนิวเคลียร์

ความปลอดภัยจากนิวเคลียร์ถูกพูดถึง เพราะได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น อุบัติเหตุนิวเคลียร์เกาะทรีไมล์ในสหรัฐอเมริกา ภัยพิบัติเชอร์โนบิลในอดีตสหภาพโซเวียต (ปัจจุบันอยู่ในยูเครน) และล่าสุดโรงงานฟูกูชิมะไดอิจิล่มสลายในญี่ปุ่น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกลัวเรื่องความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

แม้ว่าโศกนาฏกรรมในเชอร์โนบิลและฟูกูชิมะจะเป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมได้ แต่การใช้นิวเคลียร์เป็นวิธีการผลิตพลังงานที่ปลอดภัยที่สุดวิธีหนึ่ง แม้จะคำนึงถึงความจำเป็นในการกักเก็บกากนิวเคลียร์ด้วยก็ตาม สถานที่จัดเก็บหลายแห่งได้รับการคุ้มครองอย่างสูง ได้รับการปกป้องจากภัยแผ่นดินไหว พายุทอร์นาโด มีเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีโศกนาฏกรรมหรือข้อกังวลที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดเก็บกากนิวเคลียร์

 ผู้ก่อตั้งองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม Environmental Progress กล่าวว่า 12 ปีหลังจากฟูกูชิมะ ก็เริ่มดำเนินการโรงงานเหล่านี้ได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากกว่า ปลอดภัยกว่า มีการฝึกอบรมที่ดีกว่า มีการออกแบบใหม่สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ยังได้ปรับปรุงความปลอดภัย เขากล่าวกับ CNBC

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มั่นใจ เพราะมีบางคนซึ่งเหมือนกับกรีนพีซ ได้แสดงความกังขาและออกมาเตือน 

รายงานโดยเครือข่ายรณรงค์ระดับโลกกรีนพีซ ในเดือนมีนาคม 2565 ระบุว่า นอกเหนือจากความกังวลทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัยของนิวเคลียร์แล้ว พลังงานนิวเคลียร์มีราคาแพงเกินไปและช้าเกินไปในการนำไปใช้เมื่อเทียบกับพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ

ข้อมูลส่วนหนึ่ง กรีนพีซ ในการพิจารณาต้นทุน พบว่าต้นทุนในการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์อยู่ที่ช่วง 36 - 44 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) ในขณะที่รายงานประจำปีของอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ (the World Nuclear Industry Status Report) กล่าวว่า ต้นทุนการผลิตพลังงานจากกังหันลมอยู่ที่ช่วง 29-56 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง  แต่ความจริงคือ  ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์อยู่ที่ช่วง 112 – 189 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง

กรีนพีซตั้งข้อสังเกตว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการสร้าง มีผลกระทบที่สำคัญต่อเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่ยังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่รอการทดแทน นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าการสกัด การขนส่ง และการแปรรูปยูเรเนียมไม่ได้ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเช่นกัน

เเม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์มีคะแนนเทียบเคียงได้กับพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ เเต่อย่างไรก็ตาม ลมและแสงอาทิตย์สามารถนำไปใช้ได้เร็วกว่ามากและในขนาดที่ใหญ่กว่ามาก ซึ่งส่งผลกระทบเร็วขึ้นต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาด

อ่านเพิ่มเติม : 6 reasons why nuclear energy is not the way to a green and peaceful world

ข้อมูล 

Is nuclear energy the answer to a sustainable future? Experts are divided

greenpeace

schroders