นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าถึงพลังงานสะอาดของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะระดับครัวเรือน ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นจริง และยั่งยืน
เนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานในที่อยู่อาศัย คือ แรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวไปสู่ Net Zero ในระดับประเทศและระดับโลกต่อไปได้
โดยในปัจจุบันการเข้าถึงพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย ยังคงมีข้อจำกัดในการเข้าถึง ทั้งอุปกรณ์และการติดตั้งยังมีต้นทุนที่ราคาสูงถึงแม้ว่าต้นทุนเหล่านี้จะเริ่มมีการปรับราคาลดลงแต่ก็ยังเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงด้านแหล่งเงินทุนเพื่อเป็นการปลดล็อกการเข้าถึงพลังงานสะอาดของครัวเรือน
ทั้งนี้ทางแสนสิริ ได้ร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด และบริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี จำกัด ในการมอบบริการสินเชื่อเพื่อบ้านรักษ์โลก
เพื่อให้ลูกบ้านได้ติดตั้งโซลาร์ด้วยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0% โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันครั้งแรกในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ "SOLAR to ZERO" ปลดล็อกการเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากขึ้นและง่ายขึ้น
ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นบ้านในโครงการของแสนสิริทั้งหมด โดยเฉพาะบ้านในโครงการแสนสิริ ที่ยังไม่เคยติดแผงโซลาร์ และมีนิติดูแล โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กว่า 300 โครงการ
และนอกจากนี้บ้านในทุกโครงการใหม่แสนสิริ ทุกระดับเซ็กเมนท์ ที่ต้องการติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มจากเดิมที่แสนสิริติดตั้งให้ เพื่อรองรับการใช้งานและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้น
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ตั้งเป้าติดตั้งแผงโซลาร์ 100% จำนวน 10,000 ครัวเรือน ภายใน 5 ปี คาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนได้ 42,000 ตันคาร์บอนต่อปี สอดคล้องกับพันธกิจของแสนสิริ ที่ตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 เพื่อมุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับกู้เงินติดตั้งโซลาร์ดอกเบี้ยต่ำ 0% ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษผ่อน 0% นาน 4 เดือน เฉพาะลูกบ้านแสนสิริ ตั้งแต่วันนี้ถึงเดือน มิ.ย. 2567
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน แสนสิริ ได้ติดตั้ง Solar Roof ไปแล้วกว่า 800 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 1,145 ตันคาร์บอน พร้อมติดตั้ง EV Charger ไปแล้ว 400 หลัง เทียบเท่าการลดคาร์บอนแล้วกว่า 537 ตันคาร์บอน
กำจัดของเสียในอยู่อาศัยแล้ว 1.7 ล้านกิโลกรัม เทียบเท่าการลดปริมาณคาร์บอนแล้วกว่า 1,174 ตันคาร์บอน เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้แล้ว 73,661 ต้น เทียบเท่าการลดคาร์บอนกว่าแล้ว 700 ตันคาร์บอน
ซึ่งการร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ลูกบ้านทุกหลังเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างเท่าเทียม
โดยปัจจุบัน แสนสิริมีพอร์ตลูกค้าแนวราบรวมทั้งสิ้น 249 โครงการหรือคิดเป็นกว่า 79,000 ยูนิต ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ลูกบ้านทุกกลุ่ม และลูกบ้านจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้เข้าร่วมแคมเปญได้อย่างเท่าเทียม