zero-carbon

เปิดผลงานรัฐบาลลุงตู่ ปลูกป่าชายเลนขาย “คาร์บอนเครดิต”

    เปิดผลงานรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับนโยบายปลูกป่าชายเลนขาย “คาร์บอนเครดิต” สร้างรายได้ให้กับชุมชน ดูดซับคาร์บอน ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้วแค่ไหน พร้อมเช็ครายละเอียดแผนการทำงานในอนาคต

การพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทย ในปัจจุบันมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบความคืบหน้าการพัฒนาและฟื้นฟูป่าชายเลน พร้อมทั้งได้หาทางส่งเสริมให้เกิดกลไกของ “คาร์บอนเครดิต” เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้จากข้อมูล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ประเทศไทยมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ จำนวน 1.5 ล้านไร่ ซึ่งป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่สำคัญต่อสภาพแวดล้อมบริเวณชายฝั่งทะเล สามารถดูดซับคาร์บอนได้ถึง 8 - 9 เท่า

อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิดที่เข้ามาเพาะพันธุ์ ช่วยดูดซับน้ำเสียจากชุมชนก่อนไหลลงสู่ทะเล และยังทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันการกัดเซาะพังทลาย กำบังคลื่นลม และเป็นแหล่งประมงชายฝั่งอีกด้วย 

 

ภาพประกอบข่าว ผลงานรัฐบาลลุงตู่ ส่งเสริมการปลูกป่าชายเลนขาย “คาร์บอนเครดิต”

เพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มแล้ว 2 แสนไร่

ที่ผ่านมารัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมมืออย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ การพัฒนาและฟื้นฟูป่าชายเลน  และการส่งเสริม “คาร์บอนเครดิต” จนปัจจุบันสามารถผลักดันให้เกิดป่าชายเลนเพิ่มขึ้นในประเทศกว่า 200,000 ไร่ โดยมีผลการดำเนินงานต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม ดังนี้

1.ตั้งเป้าหมายการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนให้ได้ในจำนวน 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี ซึ่งเมื่อปี 2565 สามารถฟื้นฟูได้แล้วกว่า 40,000 ไร่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศพื้นที่เป้าหมายเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนอีก 30,000 – 40,000 ไร่ โดยจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยในการดูดซับคาร์บอนลดการเรือนกระจกและเพิ่มปริมาณพันธุ์สัตว์น้ำ สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนได้ในระยะยาว

2.โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อ "คาร์บอนเครดิต" จำนวน 300,000 ไร่ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตสำหรับบุคคลภายนอก ซึ่งจะเปิดโอกาสให้หน่วยงานเอกชนต่าง ๆ เข้ามาร่วมโครงการปลูกป่า
  • โครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตสำหรับชุมชนที่ดูแลป่าชุมชนชายฝั่งต่าง ๆ และครือข่ายอนุรักษ์ต่าง ๆ ที่ดูแลป่า

3.โครงการ “ป่าในเมือง” ในจังหวัดระยอง หรือ “ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” โดยเป็นพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน 500 ไร่ บริเวณปากแม่น้ำระยอง ตำบลปากน้ำและตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีสะพานศึกษาธรรมชาติเป็นทางเดินยาว 7 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะถูกนำมาสร้าง "คาร์บอนเครดิต" เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

 

ภาพประกอบข่าว ผลงานรัฐบาลลุงตู่ ส่งเสริมการปลูกป่าชายเลนขาย “คาร์บอนเครดิต”

ตั้งกรม Climate Change รับการพัฒนา

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้จัดตั้งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Department of Climate Change and Environment) หรือ “กรม Climate Change” เพื่อดูแลภารกิจรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพแวดล้อม บริบทด้านสังคม เศรษฐกิจ ตลอดจนข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

นายกฯ หวังวางรากฐานให้คนรุ่นใหม่

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าหมายฟื้นฟูป่าชายเลนให้ได้ในจำนวน 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2565 

สะท้อนความมุ่งมั่นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของทุกภาคส่วน ตามแนวคิด BCG บรรลุสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมวางรากฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้คงความอุดมสมบูรณ์ เพื่อส่งต่อถึงคนในรุ่นใหม่ในอนาคต

“นายกฯ เชื่อมั่นว่าการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน จะเป็นต้นแบบสำคัญในการวางรากฐานทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้คงความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ส่งต่อถึงคนในรุ่นใหม่สอดคล้องกับแนวคิด BCG ด้านการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งคาร์บอนเครดิต จะเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจสำคัญให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมฟื้นฟูเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น สร้างรายได้ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม” นายอนุชา กล่าว