"กฟผ." ผุดโมเดลต้นแบบ "EV Charging Floor" หัวชาร์จมากสุดในไทย

27 ก.พ. 2566 | 09:44 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.พ. 2566 | 09:44 น.

"กฟผ." ผุดโมเดลต้นแบบ "EV Charging Floor" หัวชาร์จมากสุดในไทย มุ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป หลังทุกประเทศเริ่มเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการเดินทางเพื่อลดปัญหามลภาวะ

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ดำเนินการแปลงโฉมพื้นที่เดิมของลานจอดรถยนต์ ให้กลายเป็นลานชาร์จรถ EV ทั้งชั้น ซึ่งประกอบด้วยเครื่องชาร์จที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 66 หัวชาร์จ 

โดยเป็นหัวชาร์จด้วยความเร็วปกติ (AC Normal Charge) ขนาด 7.4 กิโลวัตต์ (kW) 110 ช่องจอด (รวมช่องจอดรอชาร์จ) ซึ่งสถานีชาร์จแห่งดังกล่าวถือเป็นโมเดลต้นแบบ EV Charging Floor สำหรับอาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย และพื้นที่จอดรถอื่น และต้องการศึกษา พัฒนา ได้เข้ามาเรียนรู้ดูงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้างต่อไป

"สถานีชาร์จ EleX by EGAT ต้นแบบดังกล่าวอยู่ที่ EV Charging Floor อาคารจอดรถ ชั้น 2 สำนักงานใหญ่ กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี"

อย่างไรก็ดี กฟผ. ได้ดำเนินการร่วมกับค่ายรถยนต์ระดับโลกกว่า 11 ค่าย ได้แก่ Audi ,BMW ,BYD ,GWM ,Lexus ,Mercedes Benz ,MG ,Mitsubishi ,NETA ,Nissan และToyota มาร่วมจัดแสดงพร้อมกัน เพื่อให้ความมั่นใจว่าสามารถรองรับการชาร์จรถ EV ได้ทุกค่ายรถ 

กฟผ. ผุดโมเดลต้นแบบ EV Charging Floor หัวชาร์จมากสุดในไทย "ปัจจุบัน กฟผ. เปิดให้บริการสถานีชาร์จ EleX by EGAT พร้อมสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA แล้ว 104 สถานีทั่วประเทศ และตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จ EleX by EGAT ให้มีจำนวนรวมกว่า 150 สถานี ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ผู้ใช้รถ EV เดินทางทั่วประเทศได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น"

นายบุญญนิตย์ กล่าวอีกว่า หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยเริ่มเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญในการเดินทางเพื่อลดปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ และได้กำหนดแนวทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามนโยบาย 30@30 คือ ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 
 

"EV Charging Floor แห่งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะสนับสนุนให้พนักงานภายในองค์กรเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และจะเป็นโมเดลต้นแบบให้องค์กรชั้นนำอื่น ๆ ได้นำมาปรับใช้ เพื่อสนับสนุนให้พนักงานภายในองค์กรเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อไป"