ถ่ายทอดสด "เรอัล มาดริด ปะทะ แอตฯมาดริด" ดาร์บี้เดือด UCL คืนนี้

ตารางแข่งขัน ถ่ายทอดสด และพรีวิว "เรอัล มาดริด" พบ "แอตเลติโก มาดริด" สองทีมคู่อริตลอดกาลของเมืองมาดริด จะปะทะกันอีกครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก(UCL) รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเกมแรกจะแข่งขันที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว คืนวันอังคารที่ 5 มีนาคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย 

 

 

ประวัติการพบกัน

 

ทั้งสองทีมมีประวัติการเจอกันมาแล้ว 75 เกม โดย เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะถึง 37 ครั้ง เสมอ 28 และแพ้ 10 ครั้ง

 

ผลการแข่งขัน 10 นัดหลังสุด แอตเลติโก ไม่แพ้เรอัล มาดริดมา 7 เกม ซึ่ง 3 เกมล่าสุดเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งหมด

ในประวัติศาสตร์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เรอัล มาดริด เอาชนะ แอตเลติโก ในรอบน็อคเอาท์มาแล้วทั้ง 5 ครั้ง รวมถึงในรอบชิงชนะเลิศปี 2014 และ 2016

 

 

สถานการณ์ล่าสุดของ เรอัล มาดริด

 

แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 15 สมัย เข้าสู่รอบ 16 ทีมด้วยเส้นทางที่ยากลำบาก หลังจากต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์ปี 2023 แต่ด้วยความเก๋าของ คาร์โล อันเชล็อตติ ทำให้ราชันชุดขาวเอาชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-3 โดย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงแฮตทริกในเกมเลกสอง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในลาลีกา พวกเขาพ่ายแพ้ต่อ เรอัล เบติส 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้สะดุดในการลุ้นแชมป์ลีก แต่ฟอร์มในบ้านยังคงแข็งแกร่ง ชนะ 8 นัดและเสมอ 1 จาก 9 เกมหลังสุดที่เบร์นาเบว

 

สถานการณ์ล่าสุดของ แอตเลติโก มาดริด

 

ตราหมีภายใต้การคุมทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กำลังมองหาโอกาสแก้แค้นความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศปี 2014 และ 2016 พวกเขาทำผลงานได้ดีในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะ 5 เกมสุดท้ายและจบด้วยอันดับที่ 5

 

ล่าสุดในลาลีกา พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 จากประตูของ จูเลียน อัลวาเรซ ทำให้ขึ้นไปนำจ่าฝูงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม พวกเขาโชคดีที่ไม่เสียประตู หลังทีมเยือนยิงโดนเสาถึง 3 ครั้งในครึ่งหลัง

 

 

 

แต่ในแชมเปียนส์ลีกรอบน็อคเอาท์ฤดูกาลที่แล้ว แอตเลติโก แพ้ทั้ง 3 เกมเยือน ซึ่งเป็นสถิติแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1971

 

ความพร้อมของทั้งสองทีม

 

เรอัล มาดริด

จูด เบลลิงแฮม จะพลาดลงสนามเนื่องจากติดโทษแบน หลังได้รับใบเหลืองที่ 3 ในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นบาดเจ็บอีกหลายราย ได้แก่ เอเดอร์ มิลิเตา, ดานี่ การ์บาฆาล, ดานี่ เซบายอส และ เฆซุส บาเยโฆ

 

เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ กลับมาซ้อมได้แล้วหลังมีอาการไม่สบาย และอาจถูกเรียกใช้งานในตำแหน่งแบ็คขวาแทน ลูคัส บาซเกซ ส่วน ราอูล อเซนซิโอ อาจได้โอกาสลงตัวจริงแทน ดาบิด อลาบา ในแนวรับ

 

 

แอตเลติโก มาดริด

เซซาร์ อัซปิลิกูเอต้า จะพลาดลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขา ขณะที่ โกเก้ กัปตันทีมคนสำคัญก็ไม่พร้อมลงเล่นเช่นกันเพราะปัญหาที่ต้นขา

 

จูเลียน อัลวาเรซ ทำผลงานได้ดีในเกมล่าสุดและทำไปแล้ว 6 ประตูในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ มีโอกาสได้ลงตัวจริงแทน อเล็กซานเดอร์ เซอร์ล็อธ ส่วน มาร์กอส ยอเรนเต้ ที่ลงมาเป็นผู้ทำแอสซิสต์ให้ อัลวาเรซ ก็มีลุ้นแย่งตำแหน่งจาก จูเลียโน่ ซิเมโอเน่ ทางฝั่งขวา

 

รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาดการณ์

เรอัล มาดริด (4-3-3): กูร์ตัวส์; บัลเบร์เด้, รือดีเกอร์, อเซนซิโอ, แมนดี้; โชอาเมนี่, กามาวินก้า; โรดรีโก้, ดิอาซ, วินิซิอุส; เอ็มบัปเป้

 

แอตเลติโก มาดริด (4-4-2): โอบลัค; โมลินา, เลอ นอร์มอง, ฆิเมเนซ, กาลาน; ยอเรนเต้, เดอ เปาล์, บาร์ริออส, ลิโน่; กรีซมันน์, อัลวาเรซ

 

บทวิเคราะห์

 

แม้ว่าแนวรับของ แอตเลติโก มาดริด จะรับมือกับ แอธเลติก บิลเบา ได้ในเกมล่าสุด แต่พวกเขาโชคดีมากที่ไม่เสียประตู และแน่นอนว่าโอกาสที่ประตูของ ยาน โอบลัค จะถูกเจาะที่เบร์นาเบวมีสูงมาก

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยแท็คติกการรับที่แข็งแกร่งของทีมจาก ซิเมโอเน่ และการขาดหายไปของ เบลลิงแฮม ในแดนกลางของ เรอัล มาดริด 

 

ทั้งนี้ ดูถ่ายทอดสด เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด ในคืนวันอังคารที่ 5 มีนาคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง beIN SPORTS 1