thansettakij
ธอส.ชี้ลูกค้าเชื่อมั่น กลับมาโอนซื้อคอนโดปกติ หลังแผ่นดินไหว

ธอส.ชี้ลูกค้าเชื่อมั่น กลับมาโอนซื้อคอนโดปกติ หลังแผ่นดินไหว

02 เม.ย. 2568 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :02 เม.ย. 2568 | 09:32 น.

ธอส.ชี้หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ลูกค้าเชื่อมั่น กลับมาโอนซื้อคอนโดปกติ ระบุผ่อนเกณฑ์ LTV มาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง กระตุ้นภาคอสังหาฯ คาดปี 68 โต 1.1%

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนที่อยู่อาศัย และคอนโดมิเนียม เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว หลังจากเกิดเหตุสถานการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ที่ผ่านมาโดยมียอดโอน เฉลี่ยใกล้เคียงสถานการณ์ปกติวันละ 400 ราย หลังจากธนาคารและผู้ประกอบการคอนโดมิเนียม มีการร่วมมือกันเร่งสร้างความเชื่อมั่นตรวจรับรองว่าโครงสร้างอาคารมีความแข็งแกร่งและสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ก็ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นมากขึ้น และกลับมาโอนเป็นปกติ 

”ยอมรับว่าในช่วงวันแรก หลังเกิดแผ่นเหตุแผ่นดินไหว มีลูกค้าชะลอการตัดสินใจโอนคอนโดไปบ้างแต่เป็นแค่ช่วงระยะสั้น และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการทิ้งใบจองหรือยกเลิกสัญญาอย่างที่กังวลแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงมีต่อเนื่องทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์รวมถึงคอนโดคอนโดมิเนียม“

ทั้งนี้ เห็นได้จากยอดการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรก ปล่อยกู้ไปแล้ว 46,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 12,000 ล้านบาท โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ที่มีการเติบโตถึง 20% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการลดดอกเบี้ยนโยบาย ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ความต้องการกู้เพื่อซื้อบ้านมากขึ้น ซึ่งธอส. ยังวางเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 นี้ อยู่ที่ 2.4 แสนล้านบาท 

สำหรับภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2568 นี้ มองว่าแนวโน้วสินเชื่อปล่อยใหม่จะเพิ่มขึ้น เป็น 1.1% จากปีที่ผ่านมา -13% ทั้งนี้ จะมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.2 - 3.2% (ค่ากลางที่ 2.7%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นการขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศตามแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มปรับลดลง 

นอกจากนี้ รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน ขณะเดียวกัน ธปท. ได้ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV เป็นการชั่วคราว (ที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา LTV 100%) เพื่อประดับประคองภาคอสังหาริมทรัพย์ และช่วยแก้ปัญหาอุปทานคงค้างในตลาดที่อยู่อาศัย ตั้งแต่ 1 พ.ค.2568 - 30 มิ.ย.2569 รวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวตามการเพิ่มขึ้นของจำนวน และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“คาดว่าหลังจากนี้แนวโน้มการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังรัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ออกมา ทั้งมาตรการผ่อนปรนมาตรการสินเชื่อ LTV ซึ่งจะทำให้คนที่ซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่สองสามารถกู้ได้เต็ม 100% ตลอดจนมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับการซื้อบ้านที่ไม่เกินราคา 7 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม ได้แก่ หนี้สินภาคครัวเรือนแม้ว่าจะเริ่มปรับตัวลดลง แต่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชนลดลง เกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่รัดกุมของธนาคารพาณิชย์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้ความเชื่อมั่นในการอยู่อาศัยห้องชุดลดลง อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยา ทำให้มีการซะลอการซื้อห้องชุดในระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ ยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดเงิน การลงทุน และนโยบายทางภูมิรัฐศาสตร์