ORI โชว์ Backlog แตะ 47,329 ล้าน เตรียมขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 4.50-5.15%

31 ม.ค. 2568 | 15:47 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2568 | 15:48 น.

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 รุ่น ดอกเบี้ยคงที่ 4.50-5.15% ระหว่างวันที่ 10-11 และ 13 ก.พ. นี้ ผ่าน 9 สถาบันการเงิน พร้อมเผย Backlog แข็งแกร่ง 47,329 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี มั่นใจเติบโตยั่งยืนจากธุรกิจใหม่

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ประกาศเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและสถาบัน 3 รุ่น ระหว่างวันที่ 10-11 และ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50-5.15% ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "BBB+" จากทริสเรทติ้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายน 2568

พีระพงศ์ จรูญเอก

หุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น มีรายละเอียดดังนี้

  • รุ่นที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี
  • รุ่นที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี
  • รุ่นที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.15% ต่อปี

นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท ผ่าน 9 สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, บล.เอเซีย พลัส, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน, บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) และบล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เป็นต้น

ORI โชว์ Backlog แตะ 47,329 ล้าน เตรียมขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 4.50-5.15%

นอกจากนี้ นายพีระพงศ์ ยังเปิดเผยว่า บริษัทมี Backlog มูลค่ารวม 47,329 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมแผนโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่ 13 โครงการในปี 2568 รวมมูลค่า 17,180 ล้านบาท

ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา ORI สามารถทำยอดขาย (Presale) ได้ 35,435 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 28,891 ล้านบาท เป็นสัดส่วน 82% และบ้านจัดสรร 6,544 ล้านบาท คิดเป็น 18% นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมทุนใหม่อีก 14 โครงการ ทั้งคอนโด บ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า รวมมูลค่า 186,960 ล้านบาท

อีกทั้ง ORI ยังได้เพิ่มศักยภาพผ่านการขยายฐานลูกค้าต่างชาติผ่าน Origin Agent Club ซึ่งร่วมมือกับเอเจนต์กว่า 300 ราย ส่งผลให้ยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติปี 2567 อยู่ที่ 5,700 ล้านบาท มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ 225%

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทฯหรือ New S Curve ที่ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม คลังสินค้า และบริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ปัจจุบันบริหารโรงแรม 11 แห่ง อย่างเช่น สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท รวม 2,657 ห้อง อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือน ธ.ค. 2567 สูงถึง 76%

ORI โชว์ Backlog แตะ 47,329 ล้าน เตรียมขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ดอกเบี้ย 4.50-5.15%

สำหรับธุรกิจคลังสินค้ามีพื้นที่เช่ากว่า 403,447 ตร.ม. กระจายใน 10 ทำเลยุทธศาสตร์ อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เป็นต้น โดยมีอัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90%

และธุรกิจบริการอสังหาฯ ภายใต้ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ให้บริการตั้งแต่วบคุมงานก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล บริหาร Investment Property บริการออกแบบและตกแต่งภายใน ไปจนถึงบริการด้านความสะอาด ซึ่งครอบคลุม 229 โครงการ คิดเป็นทั้งหมด 44,650 ครอบครัว

ทั้งนี้ มองว่ากลุ่มธรุกิจใหม่ของบริษัทฯ เหล่านี้จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯได้ในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพียงอย่างเดียว