ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จจากยอดขายพรีเซลในปี 2567 โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงถึง 9,700 ล้านบาท จาก 4 โครงการหลัก
ได้แก่ มิวนีค พร้อมพงษ์ (MUNIQ PHROM PHONG) ยอดขายกว่า 3,400 ล้านบาท, มิวนีค เจริญกรุง (MUNIQ CHAROEN KRUNG) ยอดขาย 2,700 ล้านบาท, มาวิสต้า พร้อมพงษ์ (MAVISTA PHROM PHONG) ยอดขาย 1,100 ล้านบาท และมารุ จุฬา (MARU CHULA) ยอดขาย 220 ล้านบาท โดยโครงการสุดท้ายเตรียมเปิดขายจริงวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โครงการได้รับการตอบรับดี มาจากการพัฒนาโครงการระดับ Luxury ที่ให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้ง การออกแบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าตลาดบน
โดยโครงการทั้ง 4 ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพใจกลางเมือง เช่น พร้อมพงษ์, จุฬา-สามย่าน, เจริญกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างหายาก และมีอุปทาน (Supply) คอนโดระดับ Luxury ในตลาดค่อนข้างจำกัด
จากความสำเร็จด้านยอดขาย บริษัทเตรียมเดินหน้าก่อสร้างโครงการรวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท โดยมีแผนดำเนินการดังนี้
ดร.สุริยา กล่าวว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ยังคงมีความท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยสูง การเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ตลาดกลุ่ม Luxury ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง เนื่องจากมีกำลังซื้อจากลูกค้ากลุ่มบนที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกจากภาครัฐ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม อาจช่วยสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ในบางเซกเมนต์ โดยเฉพาะโครงการที่ชูจุดขายด้านนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Home), โครงการที่เน้นประหยัดพลังงาน และคอนโดที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly)
จากแนวโน้มตลาดดังกล่าว บริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีจุดขายที่ชัดเจน โดยเน้นกลยุทธ์ อาทิ ทำเลศักยภาพ ใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ดีไซน์และวัสดุระดับพรีเมียม ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าลักชัวรี และบริการครบครัน เช่น Concierge Service เทียบเท่าระดับโรงแรม
"ความสำเร็จของเราเป็นผลจากกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่เข้าใจพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย และมอบคุณภาพที่คุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว"