หากใครที่กำลังมองหาการใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมือง หรืออยู่บริเวณชานเมืองแต่สะดวกต่อการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ คอนโด น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด แต่จะเลือกเช่าคอนโดอยู่ไปก่อน หรือจะซื้อคอนโดไปเลย ก็มีปัจจัยหลากหลายซึ่งขึ้นอยู่กับจังหวะ และเงื่อนไขการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วยทั้งนี้ลองมาดูการเปรียบเทียบระหว่างการเช่า และซื้อคอนโดในด้านต่างๆ พร้อมการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เพื่อให้คุณ เตรียมพร้อมด้านการเงินสำหรับการเลือกที่อยู่ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุด
เปรียบเทียบการ เช่า vs ซื้อ คอนโด แบบไหนคุ้มกว่า
ทั้งการเช่าและการซื้อคอนโด ต่างก็มี ข้อดี- ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบในด้านความคุ้มค่าแล้ว จะได้เป็นดังนี้
1. ในด้านค่าใช้จ่าย
เช่าคอนโด สำหรับการเช่าคอนโด จะมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกตอนทำสัญญาเช่า เช่น ค่าประกันห้อง ค่าเช่าล่วงหน้า เป็นต้น ซึ่งจะเก็บครั้งเดียวและเมื่อย้ายออกจะได้ค่าประกันห้องคืนกลับมา หากคืนห้องในสภาพเดิม และในแต่ละเดือนก็จะมีค่าเช่ารายเดือนตามสัญญาเช่า ที่ต้องจ่ายในขณะที่เข้าอยู่
ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโดจะค่อนข้างคงที่ และเมื่อรวมกับค่าสาธารณูปโภคต่างๆ แล้ว ก็จะค่อนข้างใกล้เคียงกันในทุกเดือน ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างคล่องตัวซื้อคอนโด ในการซื้อคอนโดจะมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อนซื้อทั้งการจอง การดาวน์ ค่าธรรมเนียมการโอน ฯลฯ ซึ่งจะเป็น 10-15% ของราคาคอนโด ที่ต้องเตรียมเป็นเงินสดเอาไว้
ส่วนหลังจากที่ซื้อแล้ว ถ้าหากซื้อเป็นแบบกู้ธนาคาร ในแต่ละเดือนก็จะมีค่าผ่อนคอนโดในอัตราที่กำหนด รวมถึงในแต่ละปีก็จะมีค่าส่วนกลางตามขนาดห้องที่เป็นเจ้าของด้วย ซึ่งถ้าหากผ่อนจ่ายจนครบตามสัญญากู้ซื้อคอนโดแล้ว คุณก็จะได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องชุดนั้น
2. การตกแต่งภายในที่ตอบความต้องการ
เช่าคอนโด จะไม่สามารถตกแต่งอะไรเพิ่มเติมไปจากสัญญาเช่าได้ โดยปกติแล้ว การทำสัญญามักจะมีการถ่ายภาพจุดต่างๆ เอาไว้เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังเช่า ในการป้องกันความเสียหาย หรือการดัดแปลงสภาพห้องไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการทาสีใหม่ เปลี่ยนวอเปเปอร์ เปลี่ยนพื้น เจาะผนังแต่ก็จะมีบางจุดที่สามารถตกแต่งเพิ่มเข้าไปได้ โดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับตัวห้อง เช่น การซื้อเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งเพิ่มเติม การเปลี่ยนภาพตกแต่งผนังห้อง เป็นต้น
ซื้อคอนโด เมื่อสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอยู่กับคุณแล้ว ภายในห้องชุดก็สามารถปรับเปลี่ยน ตกแต่งได้ตามสไตล์ที่คุณชอบได้อย่างเต็มที่ เช่น การทาสีใหม่ เปลี่ยนวอลเปเปอร์ ปูพื้น เปลี่ยนไฟ ทำบิวท์อินใหม่ เป็นต้น แต่ก็ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคาร
3. การต่อยอดลงทุนในอนาคต
เช่าคอนโด สำหรับการเช่าคอนโด เงินที่จ่ายให้กับทางเจ้าของห้องทุกเดือนคือเงินค่าเช่า ซึ่งผู้เช่าจะไม่มีกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของห้องได้ รวมถึงผู้เช่าก็ยังไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในการบริหารจัดการต่างๆ ร่วมกับนิติคอนโดด้วย
ซื้อคอนโด ในการซื้อคอนโด ห้องชุดนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อ ซึ่งหากในอนาคตมีแผนจะย้ายออกไปที่อื่น ก็สามารถปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ และถ้าหากคอนโดตั้งอยู่ในทำเลที่ในอนาคตมีความเจริญเพิ่มมากขึ้น ก็อาจทำให้คอนโดมีมูลค่าสูงขึ้น สามารถขายต่อและทำกำไรได้อีกด้วย
4. ความสะดวกต่อการโยกย้ายทำเลที่อยู่
เช่าคอนโด ในการเช่าคอนโดจะสามารถโยกย้ายที่อยู่ได้ง่าย ซึ่งถ้าหากว่าเช่าอยู่ครบตามสัญญาแล้ว อยากเปลี่ยนทำเลที่อยู่ หรือมีการย้ายที่ทำงานไกลออกไปจากที่พักเดิม ก็สามารถย้ายไปเช่าคอนโดใหม่ที่มีความสะดวกกับการใช้ชีวิตมากขึ้นได้
ซื้อคอนโด สำหรับการเป็นเจ้าของคอนโดแล้ว ถ้าหากต้องมีการย้ายที่อยู่ ก็อาจจะมีขั้นตอนมากกว่าการเช่า เพราะเมื่อย้ายออกไปแล้ว ก็ต้องคิดต่อว่า ห้องที่เราเป็นเจ้าของจะปล่อยเช่า หรือจะขายไปเลย ซึ่งก็จะต้องใช้เวลาในการหาผู้เช่าหรือผู้ซื้อต่อด้วย
วิเคราะห์ค่าใช้จ่ายในการเช่า vs ซื้อคอนโด
มาดูกันว่าทั้งการเช่าคอนโด และการซื้อคอนโด คุณจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? เพื่อให้คุณได้เลือกรูปแบบการเข้าอยู่คอนโด ให้ตอบโจทย์ทางการเงินมากที่สุด
ค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช่าคอนโด มักจะค่อนข้างคงที่เนื่องจากค่าเช่าจะถูกกำหนดมาแล้ว แต่ก็จะมีค่ามัดจำ และค่าประกันห้องในตอนเริ่มเข้าอยู่ ซึ่งจะมีการกำหนดที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ปล่อยเช่า
โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ ในการเช่าคอนโดแต่ละเดือน ได้แก่
เช่น เช่าคอนโดในราคาเดือนละ 8,000 บาท มีค่าสาธารณูปโภคเดือนละ 1,000 บาท และมีค่าเดินทางไปกลับที่ทำงานด้วยรถไฟฟ้าประมาณ 3,000 บาท
ก็จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าคอนโดรวมค่าเดินทางทั้งหมด 12,000 บาทต่อเดือน
ค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนโด
สำหรับการซื้อคอนโด นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายก้อนแรกที่ต้องเตรียมเอาไว้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น
ค่าใช้จ่ายก่อนซื้อ
เป็นเงินส่วนแรกที่ต้องทำการจ่ายก่อนเข้าอยู่คอนโด ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะจ่ายเพียงครั้งเดียวก่อนเข้าอยู่
ค่าใช้จ่ายหลังซื้อ
โดยเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนหลังจากที่กู้ซื้อคอนโดกับธนาคารผ่านแล้ว ซึ่งค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างคงที่ไปจนกว่าจะผ่อนชำระเสร็จสิ้น
เช่น ซื้อคอนโดราคา 2,000,000 บาท มีค่าใช่จ่ายก่อนซื้อรวมแล้วประมาณ 350,000 บาท
โดยกู้ซื้อกับทางธนาคาร ผ่อนเดือนละ 14,000 บาท มีค่าสาธารณูปโภคเดือนละ 1,000 บาท และมีค่าเดินทางไปกลับที่ทำงานด้วยรถไฟฟ้าประมาณ 3,000 บาท
ก็จะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่ก่อนซื้อ ที่เป็นเงินสดประมาณ 350,000 บาท และหลังจากกู้ซื้อและเข้าอยู่แล้ว จะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 18,000 บาท ไปจนกว่าจะผ่อนชำระครบ รวมถึงจะมีค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายเป็นรายปีให้กับโครงการด้วย
จะเลือกแบบไหนดีกว่ากัน?
สำหรับการตัดสินใจว่าจะเช่า หรือจะซื้อคอนโด ปัจจัยสำคัญให้ดูที่ ความพร้อมทางการเงินของคุณ ถ้าหากว่ามีเงินก้อนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนแรก และสามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้ ไม่มีปัญหากระทบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน การซื้อคอนโดก็เป็นทางเลือกที่คุณจะได้เป็นเจ้าของห้องชุดได้ตามความต้องการ
แต่ถ้าหากว่าคำนวณดูแล้ว พบว่าการซื้อคอนโดจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป หรือยังไม่มีความพร้อมทางการเงินที่มั่นคง การเลือกเช่าคอนโดไปก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้คงที่ไปในแต่ละเดือนได้ดี ซึ่งจะมีโอกาสให้คุณได้เก็บเงินและสร้างเครดิตทางการเงินให้ดีสำหรับการกู้ซื้อคอนโดในอนาคตได้
ที่มา: ธนาคารอาคารสงเคราะห์