การประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ สำหรับ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ โดยมีเป้าหมายพัฒนา จาก “Local Brand” สู่ “International Brand” ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
นายกรณ์ ณรงค์เดช กรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการบริหาร RML เปิดเผยว่า หลังจากได้บริหารธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในปีนี้ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการแต่งตั้ง นายเบร็นตัน จัสติน มอเรลโล เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเป้าหมายการนำบริษัทสร้างแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ หรือ International Brand พร้อมกับรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี และอัลตราลักชัวรี ให้บริษัทเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มดังกล่าว
“กว่า 3 ปี ที่ผมได้บริหารไรมอนด์แลนด์ ภายใต้บทบาทของซีอีโอ ผมและทีมงานได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในระดับประเทศ ผ่านการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และดีเอ็นเอของไรมอนด์แลนด์ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน และปรับพอร์ตโฟลิโอใหม่ เพื่อแสดงตัวตนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมุ่งพัฒนาเฉพาะโครงการเซ็กเมนต์ระดับอัลตร้าลักชัวรีเท่านั้น ซึ่งเป็นโครงการมีความแตกต่าง และหาได้ยากในตลาดอสังหาฯ” นายกรณ์ กล่าวและว่า
สำหรับแผนการบุกตลาดต่างประเทศ ในระยะแรกจะเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศที่เข้าไปทำตลาด เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการ เนื่องจากตลาดต่างประเทศกลุ่มเศรษฐี ซึ่งมีรายได้สูงมากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,750 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูง โดยตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพที่บริษัทต้องการเข้าไปทำตลาด คือ กลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าในช่วง 3 ปีแรกตลาดต่างประเทศจะทำรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วน 50% และตลาดในประเทศ 50% ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างแบรนด์ไทย ให้เติบโตในระดับโลก เพื่อก้าวสู่การเป็น International Brand ให้ได้ภายในระยะ 3-5 ปี
“ในปี 2567 RML ได้นำเสนอกลยุทธ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการนำพาธุรกิจสู่ความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการปรับพอร์ตโฟลิโอเพื่อมุ่งพัฒนาโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี่ที่แท้จริงภายใต้มาตรฐานระดับโลก โดยมีเป้าหมายในการมอบประสบการณ์ ที่แตกต่าง และตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ และยังมุ่งเป้าไปที่การขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทชั้นนำ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน” นายกรณ์ กล่าว
ด้านนายเบร็นตัน จัสติน มอเรลโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ กลุ่มลักชัวรี และคาดว่าในอีก 2 ปีจะก้าวเป็นผู้นำตลาดซูเปอร์ลักชัวรี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพราะพัฒนาโครงการสามารถขาย โอนกรรมสิทธิ์ และปิดการขายได้ทั้งหมด โดยมีกลุ่มลูกค้าต่างชาติซื้อเต็มโควตาสัดส่วน 49% ในระยะหลังบริษัทจึงหันมาเพิ่มสัดส่วนพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เพื่อรับรู้รายได้ต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทยังพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีและซุปเปอร์ลักชัวรีต่อเนื่อง โดยมีแผนพัฒนา 3 โครงการ มูลค่ากว่า 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการบ้านเดี่ยว 1 หลังริมแม่นํ้าเจ้าพระยา มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้า ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพูดคุยกับลูกค้า 4-5 ราย โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเปิดการขายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และเป็นการขายก่อนการก่อสร้างซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทและลูกค้า เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด