การเคหะฯ ออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ผู้มีรายได้น้อย ลดดอกเบี้ย -ขยายสัญญา

07 ต.ค. 2567 | 07:17 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ต.ค. 2567 | 10:35 น.

การเคหะแห่งชาติ ออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ผู้มีรายได้น้อย ที่ขาดสภาพคล่อง ลดดอกเบี้ยขยายสัญญา เช่าซื้อยาวไม่เกิน40ปี สร้างความมั่นคง และยกระดับการอยู่อาศัยให้ทุกคนเข้าถึงได้ 27 ธันวาคม 2567

 

กรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ การปรับโครงสร้างระบบการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้

ทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติจึงมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าที่เช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติและลูกค้าที่เช่าซื้อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั้ง 2 ประเภท

เพื่อช่วยให้ผู้เช่าซื้อสามารถรับภาระในการผ่อนชำระหนี้ด้านที่อยู่อาศัยได้ตามนโยบายรัฐบาลในการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ทั้งยังเป็นการยกระดับด้านที่อยู่อาศัยให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนเข้าถึงได้

 

 

 

สำหรับมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติและสัญญาเช่าซื้อภายใต้โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทั้งกรณีมีหนี้ค้างชำระ และไม่มีหนี้ค้างชำระ

ที่อยู่อาศัยการเคหะฯ

อาทิ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขยายอายุการทำสัญญาให้กับผู้เช่าซื้อไม่เกิน 40 ปี แต่เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 75 ปี โดยกำหนดระยะเวลามาตรการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เงื่อนไขเป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มว่า ตั้งแต่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ส่งผลให้ต้นทุนการประกอบการต่าง ๆ และค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนหลายครอบครัวต้องขาดสภาพคล่องทางการเงิน และมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ตามกำหนด

ดังนั้นการออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ของการเคหะแห่งชาติ จะเป็นหนึ่งในทางออกที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับภาระหนี้ด้านที่อยู่อาศัยได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้เช่นเดิม

เพราะการมีบ้านที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นความมั่นคงในชีวิตทางหนึ่ง และยังมีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวในบ้านหลังเดียวกัน ตามวิสัยทัศน์ของการเคหะแห่งชาติ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี”