จุดพลุที่ดินรัฐวิสาหกิจ ขุมทอง กลางเมือง พัฒนาเชิงพาณิชย์น่าจับตา

16 ก.ค. 2566 | 14:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2566 | 14:38 น.

จุดพลุที่ดินรัฐวิสาหกิจ ขุมทอง ทำเลกลางเมือง หัวเมืองใหญ่ พัฒนาเชิงพาณิชย์ หารายได้ จากพื้นที่-อาคารไม่ใช้ประโยชน์ สู่ ทำเลทอง น่าจับตา

 

รัฐวิสาหกิจที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดหัวเมืองขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มมีการนำที่ดินของตนเองออกมาหารายได้แล้ว เนื่องจากสำนักงานของตนเองไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปจากในอดีตแล้ว ที่ดินหรือสำนักงานขนาดใหญ่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เพราะรูปแบบการทำงานรวมไปถึงการให้บริการประชาชนหรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป

ปัจจุบันบริการหลายอย่างทดแทนด้วยเทคโนโลยี ขั้นตอนเอกสารต่างๆ ลดน้อยลง อีกทั้งจำนวนพนักงานหรือคนที่ทำงานในหน่วยงานลดน้อยลงด้วยเช่นกัน บางจังหวัดใดก็ตามที่มีสำนักงานหลายแห่งก็อาจจะยุบรวมเหลือเพียงหนึ่งแห่งในส่วนกลางเท่านั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และนำที่ดินออกมาหาประโยชน์โดยการปล่อยเช่ารูปแบบต่างๆ

 

 “พร็อพเพอร์ตี้ดีเอ็นเอ” วิเคราะห์ว่า ที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องของการหาประโยชน์จากการปล่อยเช่าที่ดิน คือ การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ปล่อยเช่าที่ดิน หรือพื้นที่ภายในอาคารสถานีของตนเองมานานมากแล้ว ซึ่งรูปแบบการปล่อยเช่ามีทั้งปล่อยเช่าระยะยาว 30 ปี หรือแบบสั้น 1-3 ปี ในกรุงเทพมหานครมีการดำเนินการในเรื่องนี้มาต่อเนื่องในช่วงหลาย

ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ดินรอบสถานีกลางบางซื่อ หัวลำโพง และที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง รวมไปถึงมีการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุนพัฒนาที่ดิน

โดยมีการจัดทำแบบต่อเนื่องโดยภาคเอกชนภายใต้การจัดจ้างของการรถไฟฯ สำหรับที่ดินหลายแปลงนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว จากนั้นยังมีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนที่รวมทั้งผู้ประกอบการ นักการตลาดอสังหาริมทรัพย์ และผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับฟังความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ

สำหรับที่ดินแต่ละแปลงที่มีการศึกษาเสร็จแล้ว ทั้งนี้เพื่อดูความเป็นไปได้ในการนำที่ดินออกมาประมูล ซึ่งเรื่องนี้การรถไฟฯ ทำมาต่อเนื่อง และน่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ที่มีขั้นตอนและลำดับขั้นชัดเจนที่สุดในการเปิดประมูลที่ดินของตนเอง

ที่อาจจะมีข่าวในเรื่องนี้ เช่น การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ดินขนาดใหญ่กว่า 2,000 ไร่ที่คลองเตยซึ่งมีทิศทางที่จะนำออกมาให้เอกชนประมูลเช่นกัน โดยเริ่มทำการศึกษามาตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมมากนัก แต่น่าจะอีกไม่นานที่ที่ดินของการท่าเรือแห่งประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ประโยชน์รูปแบบอื่นๆ เพราะท่าเรือสำหรับเรือขนาดใหญ่แบบนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่ในกรุงเทพ มหานคร และมีท่าเรืออื่นๆ ที่พร้อมทดแทนได้อยู่แล้วในปัจจุบัน

จุดพลุทำเลทอง

  บริษัท อสมท จำกัด รัฐวิสาหกิจในรูปบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้การกำกับโดยสำนักนายกรัฐมนตรี มีการนำที่ดิน 3 แปลงมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 8,100 ล้านบาทออกมาประมูลโดยปีที่ผ่านมามีการจัดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน โดยที่ดินทั้ง 3 แปลงประกอบไปด้วย ที่ดินขนาด 50-1-30.5 ไร่ ติดศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน

ที่ดินหนองแขม 40 ไร่ เป็นที่ดินพร้อมอาคารสถานีออกอากาศหนองแขมที่ดินบางไผ่ 59 ไร่ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 11 เขตบางแค เดิมเคยเป็นสถานีเครื่องส่งวิทยุ AM  ที่ดินทั้ง 3 แปลง อสมท.ต้องการเปิดประมูลเพื่อหาผู้เช่าเข้ามาทำประโยชน์บนที่ดินโดยให้ผลตอบแทนที่ทาง อสมท. พอใจ ซึ่งณปัจจุบันยังไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับที่ดินทั้ง 3 แปลงนี้ออกมาจากทาง อสมท.

อีกรายที่ต้องการนำที่ดินออกประมูลคือ บริษัท ขนส่ง จำกัด 4 แห่ง  คือ ที่ดินทำเลแยกไฟฉาย 3 ไร่ ที่ดินสถานีเดินรถชลบุรี 5 ไร่ ที่ดินสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ปิ่นเกล้า) 15 ไร่ ที่ดินสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย)  7 ไร่ช่วงต้นปี2566 มีการจัดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน โดยบขส.ประเมินจะได้รับค่าตอบแทนจากค่าเช่า และค่าธรรมเนียมจากที่ดิน 3 แปลง 1,094 ล้านบาทไม่รวมที่ดินสถานีเอกมัย

 ขณะบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงกลาโหม เพิ่งประกาศว่าจะนำที่ดินของตนเองริมแม่นํ้าเจ้าพระยาบนถนนเจริญกรุงขนาดกว่า 20-1-82 ไร่ ให้เอกชนเข้าร่วมประมูล ข้อเสนอค่าตอบแทนการเช่าไม่น้อยกว่า 2,996.137 ล้านบาทสำหรับสัญญาเช่า 30 ปี โดยเปิดประมูลปีนี้ เป็นครั้งที่ 4 ก่อนหน้านี้ มีเหตุให้ต้องยกเลิกการประมูลไป

 เช่นเดียวกับการยาสูบแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ที่มีที่ดิน โกดัง สำนักงานที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งมีการนำที่ดินออกมาประมูลเพื่อให้เอกชนเข้ามาทำประโยชน์แบบเดียวกับรัฐวิสาหกิจ อื่นๆ โดยเบื้องต้นที่มีการเปิดเผนออกมาแล้วนั้น การยาสูบฯ ต้องการปล่อยเช่าที่ดิน 3 แปลง คือ

ที่ดินพร้อมอาคารโกดัง 5 ไร่ เศษในซอยเจริญกรุง 80 ที่ดินบ้านพักในจังหวัดขอนแก่น เนื้อที่ดิน 6 ไร่เศษ ริมถนนแจ้งสนิท อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ดินลานหินคลุกในจังหวัดหนองคาย  9 ไร่เศษ ถนนมิตรภาพ ห่างจากด่านพรมแดนไทย-ลาว เพียง 300 เมตร (ฝั่งขาเข้า)  รัฐวิสาหกิจรายใหญ่อีกรายที่ให้ความสนใจในการนำที่ดินของตนเองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือมีสถานที่อื่นทดแทนแล้ว คือ การไฟฟ้านครหลวงซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะนำที่ดินของตนเองออกประมูลเหมือนรัฐวิสาหกิจรายอื่นๆ เพียงแต่ยังไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้น

 นี่คือทำเลทองที่น่าจับตาสำหรับที่ดินรัฐวิสาหกิจ !!