พลิกโฉม รถไฟฟ้า6สาย บิ๊กเนมชิงทำเลทอง “ออริจิ้น” แชมป์เจ้าตลาดคอนโดใหม่

02 ก.ค. 2566 | 13:52 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ค. 2566 | 14:21 น.
1.2 k

พลิกโฉม บูมแนวรถไฟฟ้า6สาย บิ๊กเนมชิงทำเลทอง “ออริจิ้น” ORI ครองแชมป์เจ้าตลาดคอนโดฯ เปิดใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 19,580 ล้านปี 2566

การขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าในหลายเส้นทางครอบคลุมพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลสร้างปรากฎการณ์พลิกโฉมเมืองจากการอยู่อาศัยแนวราบสู่แนวสูงสังคมแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม เนื่องจาก ที่ดินมีจำกัดราคาสูง ผังเมืองจูงใจต่อการใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไลต์คนรุ่นใหม่ที่บิ๊กเนมทุกค่าย ตบเท้าแข่งขันการพัฒนากันอย่างคึกคัก

เช่นเดียวกับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร แม้กลยุทธ์หลักในปี2566 มุ่งเน้นให้บริษัทในเครือขยายการลงทุนคอนโดมิเนียมให้ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกเหนือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ครั้งแรก

ในทางกลับกัน  ออริจิ้นยังไม่ทิ้งทำเลยุทธ์ศาสตร์ “ใกล้รถไฟฟ้า” ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อีกหนึ่ง Key Success ที่ทำให้คอนโดมิเนียมของออริจิ้น สามารถครองใจคนเมืองทุกเพศทุกวัย จนมียอดขายคอนโดมิเนียมในไตรมาสแรกของปี 2566 ถึง 9,459 ล้านบาท

สำหรับแผนลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมปีนี้ทั้งหมดทั่วประเทศทำเลรถไฟฟ้า6เส้นทางศักยภาพ12โครงการมูลค่า 19,580 ล้านบาท คิดเป็น 64% ของพอร์ตคอนโดมิเนียมทั้งหมดในเครือ จาก แผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม ใหม่ทั่วประเทศ  22 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 30,370 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดของการเปิดคอนโดในตลาดปี 2566

คอนโดออริจิ้น

ที่มีนายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เป็นหนึ่งในผู้นำทัพ พัฒนา โดยระบุว่า ปีนี้เรายังคงบุกทำเลใกล้รถไฟฟ้า 6 สาย ต่อเนื่องจากปีที่แล้วให้ครอบคลุมหลายสถานีมากยิ่งขึ้น ทั้งสายที่เปิดให้บริการแล้วคือ สายสีเขียว-ส่วนต่อ ขยาย สายสีน้ำเงิน สายสีแดง รวมถึงสายที่จะเริ่มเปิดทดลองให้บริการอย่าง สายสีเหลือง และ สายที่จะเปิด ให้บริการ ในอนาคตอย่าง สายสีชมพู และสายสีส้ม

  •  ปักหลักสายสีเขียว เจาะครบทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ CBD ถึงส่วนต่อขยาย

ทำเลที่เป็นจุดแข็ง ออริจิ้น ยังคงยึดฐานที่มั่นตามแนวรถไฟฟ้า “สายสีเขียวอ่อน” โดยส่งแบรนด์คอนโดมิเนียมครอบคลุมแทบทุกเซ็กเมนต์และไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ระดับ Entry ไปจนถึงระดับ Luxury เริ่มจากย่าน ศูนย์กลางธุรกิจ หรือCBD ใกล้สถานีทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่มีนักธุรกิจ และชาวต่างชาติอยู่อาศัยค่อนข้างสูง

จึงส่งแบรนด์ใหม่โครงการแกรนด์ แฮมป์ตัน ทองหล่อ (Grand Hampton Thonglor) แบรนด์คอนโดมิเนียมสุดหรูสไตล์ Hotel Serviced Residence จากเมกะโปรเจกต์ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ (ORIGIN THONGLOR WORLD) มารองรับดีมานด์กลุ่มนี้ พร้อม IP Program สร้างผลตอบ แทนสำหรับนักลงทุน

  อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ

ขณะที่ย่านคลาสสิกอย่างพระโขนง อีกทำเลที่มีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่มากขึ้น ทำให้ย่านนี้คึกคัก รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย จึงได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของแบรนด์โซโห แบงค็อก (SOHO Bangkok) คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ในเครือพาร์ค ลักชัวรี่ ที่มีจุดเด่นตรงทำเลดี ใกล้สถานีพระโขนง จำนวนยูนิตน้อย มอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย พร้อมเซอร์วิสระดับโรงแรม มาเป็นตัวบุกตลาด

 ส่วนทำเลถนัดของออริจิ้นอย่างบางนา-สมุทรปราการ บริษัทก็เตรียมส่งแบรนด์ โซ ออริจิ้น (So Origin) คอนโดมิเนียมระดับไฮเอ็นด์  ห้อง Duo Space เพดานสูง 4.2 ม. พร้อม Excellent Services ใกล้สถานีแบริ่ง ขณะที่อีกฝั่งของส่วนต่อขยาย เลือกส่งแบรนด์ออริจิ้น เพลส (Origin Place) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Upper Class ที่ดีไซน์ห้องพักและส่วนกลางเจาะกลุ่มคนรักสัตว์โดยเฉพาะ บนทำเลดีใกล้สถานีพหลโยธิน 59

 •  บุกฝั่งธนลุยสายสีน้ำเงิน-สีแดงต่อเนื่อง

นายอภิสิทธิ์  ย้ำว่าหลังประกาศบุกฝั่งธนบุรีในปีที่แล้ว ปีนี้ออริจิ้นยังเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เจาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้า “สายสีน้ำเงิน”  ถึง 4 โครงการรวด ไม่ว่าจะเป็นย่านศิริราช อีกหนึ่ง Medical Hub ที่ขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเก่าแก่ บริษัทจึงเตรียมส่งแบรนด์โซ ออริจิ้น คอนโดมิเนียมใกล้สถานีไฟฉาย พร้อมบริการเหนือระดับ อำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย เจาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งส่งแบรนด์ดิ ออริจิ้น เจาะโซนบางแค และ ออริจิ้น เพลส เจาะสถานีภาษีเจริญตรงข้ามซีคอน บางแค เอาใจผู้บริโภคทั้ง Gen Y Gen Z ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรี

ขณะเดียวกัน ออริจิ้นยังเตรียมมาเปิด ดิ ออริจิ้น อีกหนึ่งโครงการที่รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางบำหรุ คาดว่าจะได้เห็นปลายปีนี้

  •  เจาะ Blue Ocean สายสีเหลือง-ชมพู-ส้ม 

ส่วนทำเล Blue Ocean  (ตลาดใหม่ที่การแข่งขันต่ำ )ตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เตรียมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็น “สายสีเหลือง” ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยและมีคอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งไลฟ์สไตล์ครบครัน ทำเล “สายสีชมพู”สถานีศูนย์ราชการ

แจ้งวัฒนะ อีกหนึ่งแหล่งงานขนาดใหญ่ที่มีข้าราชการและบุคลากรถึง 25,000 คนและรถไฟฟ้า “สายสีส้ม” สถานี น้อมเกล้า ที่สามารถเชื่อมได้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู บริษัทจะใช้ 2 แบรนด์หลักอย่าง ออริจิ้น เพลส และออริจิ้น เพลย์ เป็นแบรนด์เรือธงในการบุกตลาด โดยมีทั้ง Duo Space ห้อง 2 ชั้น เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับผู้อยู่อาศัย และคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ เจาะกลุ่ม Pet Lover และคนรุ่นใหม่ 

  ประเมินว่า แม้จะเป็นเส้นรถไฟฟ้าสายสีเดียวกัน แต่แค่ต่างสถานี ความต้องการของผู้อยู่อาศัยก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องทำการบ้านค่อนข้างมากนอกจากมองศักยภาพของทำเลแล้ว ต้องศึกษาลงลึกและเห็นภาพทุก Journey ของผู้บริโภคในทุกๆ ทำเลว่าคนย่านนี้ทำงานอะไรมีไลฟ์สไตล์แบบไหนต้องการอะไรบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้เราออกแบบฟังก์ชันทั้งในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางได้ตรงใจผู้อยู่อาศัยให้มากที่สุด นี่จึงเป็น Key Success ที่ทำให้คอนโดมิเนียมของออริจิ้น ยังสามารถครองใจผู้บริโภคได้ทุกทำเล

คอนโดออริจิ้น แนวรถไฟฟ้าปี66