'แสนสิริ'ประกาศเปิด 52 โครงการ 7.5หมื่นล้าน

30 ม.ค. 2566 | 13:48 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ม.ค. 2566 | 15:08 น.

'เศรษฐา ทวีสิน' นำทัพแสนสิริ ประกาศแผนธุรกิจปี 2566 ลุยเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ มากสุดในวงการอสังหาฯ 52 โครงการ มูลค่าทะลุ 7.5 หมื่นล้านบาท หลังเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยไปต่อ เดินหน้าทำนิวไฮ ทั้งยอดขาย รายได้ และ กำไร ทุบสถิติปีนี้

30 ม.ค.2566 - เรียกได้ว่า เป็นการประกาศแผนธุรกิจ ที่สั่นสะเทือนวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่น้อย สำหรับ 'แสนสิริ' หลังจาก 'เศรษฐา ทวีสิน' กางแผนเสริมแกร่ง ปี 2566 ด้วยจำนวนการเปิดโครงการใหม่มากที่สุดในประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา และ มากที่สุดในวงการอสังหาฯขณะนี้ ที่จำนวน 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายทำ ALL-Time High ทั้งยอดขาย - รายได้ - และกำไร 
 

\'แสนสิริ\'ประกาศเปิด 52 โครงการ 7.5หมื่นล้าน

แสนสิริ ชี้ เศรษฐกิจไทย หนุนความมั่นใจธุรกิจอสังหาฯ 

ซึ่งนายเศรษฐา  ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2565 นับได้ว่าเป็นปีแรกที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน ภายหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญมาจากการได้รับวัคซีน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวกลับมายังคงไม่เต็มที่ ทำให้มีทั้งโอกาสทางธุรกิจและปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย แนวโน้มราคาพลังงานและราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นกดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 

อย่างไรก็ดี แม้ปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่มีความท้าทายของการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่แสนสิริสามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนประสบความสำเร็จ ด้วยยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมา และยอดโอน 36,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 
 

ทุบสถิติ เปิดโครงการใหม่มากที่สุด มูลค่า 7.5 หมื่นล.

บิ๊กบอสใหญ่แสนสิริ ยังกล่าวว่า ในปี 2566 บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต 

โดยวางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และคอนโดมิเนียม 22 โครงการ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

\'แสนสิริ\'ประกาศเปิด 52 โครงการ 7.5หมื่นล้าน
ทั้งนี้  การเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมสูงถึง 75,000 ล้านบาท ของ แสนสิริ จะเป็นการเติบโตขึ้นจากปีก่อน 74% และโตขึ้นจากช่วงเกิดโควิดถึง 1,000% หรือ 10 เท่าตัว ครอบคลุมทุกโปรดักส์ ทั้งคอนโดมิเนียม - บ้านเดี่ยว – บ้านแฝด – ทาวน์โฮม ทุกเซกเมนต์ระดับราคารองรับทุกความต้องการ และครอบคลุมในทุกทำเล เจาะกลุ่ม real demand 

\'แสนสิริ\'ประกาศเปิด 52 โครงการ 7.5หมื่นล้าน

“นาราสิริ พหล – วัชรพล” โครงการไฮไลท์แพงสุด 

โดยเฉพาะแนวราบ วางแผนเปิดตัว 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,700 ล้านบาท โดยโครงการแนวราบที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่ การเปิดตัว “นาราสิริ พหล – วัชรพล” มูลค่าโครงการ 5,300 ล้านบาท 


อีกทั้ง ในปีนี้แสนสิริยังมีความเคลื่อนไหวของการเปิดตัว 9 แบรนด์ใหม่จากแสนสิริ  ตั้งแต่แบรนด์ที่อยู่ใน Sansiri Luxury Collection ที่จะขยายพอร์ตลักซ์ชัวรี เซกเมนต์ของแสนสิริให้โตขึ้นแบบก้าวกระโดด ได้แก่ No.19 (นัมเบอร์ นายทีน) และ Sirinsiri (สิริณสิริ) แบรนด์ใหม่ในระดับพรีเมียม เซกเมนต์ ได้แก่ Narinsiri (ณริณสิริ) และ Ombré (ออมเบร) รวมทั้งแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ ได้แก่ HUB (ฮับ) และ Cabanas (กาบานาส) ทำเลหัวหิน ที่จะเริ่มทยอยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ต่างๆ ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำ Forward Thinking Brand และความเป็น First Mover ของแสนสิริ 

\'แสนสิริ\'ประกาศเปิด 52 โครงการ 7.5หมื่นล้าน
ลุยเปิดคอนโดใหม่ 22 โครงการ

ขณะการเปิดตัวคอนโดมิเนียมนั้น ในแผน แสนสิริวางไว้  22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,300 ล้านบาท โตขึ้นจากปีก่อนถึง 151% โดยคอนโดมิเนียม ที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่ การเปิดตัว New Luxury Condominium ในสุดยอดทำเลศักยภาพ อาทิ ทำเลใจกลางเมืองอย่าง “อารีย์”  และ “ราชเทวี” การเปิดตัวคอนโดมิเนียม แบรนด์ใหม่ที่เป็น One of a kind Project หรือแบรนด์ใหม่ที่มีความโดดเด่นบนโลเคชั่นเดียว อาทิ  Cabanas Huahin และ อีก 2 แบรนด์คอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์ในย่านสุขุมวิท ประเดิมต้นปีด้วยการรุกตลาดคอนโดฯ ในไตรมาสแรก ด้วยการรีเฟรชแบรนด์ “ดีคอนโด” 

 

รุก 6 จังหวัดใหม่ภูมิภาค-เมืองท่องเที่ยว 

นอกจากนี้ แสนสิริ ยังวางกลยุทธ์ การรุกตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง ใน 6 จังหวัด ได้แก่ หัวหิน, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่, ขอนแก่น และชลบุรี ารตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในจังหวัดต่างๆ มาแล้ว โดยในปีนี้จะเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัดทั้งหมด 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท