จับตา 'ทุนต่างชาติ' ลงขัน 'คอนโด'ไทย ดันเปิดใหม่ 5 หมื่นหน่วย

23 มิ.ย. 2565 | 14:56 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2565 | 22:01 น.
1.3 k

ตลาด'คอนโดมิเนียม' ฟื้นตัวแรง ไนท์แฟรงค์ เผย ดีเวลลอปเปอร์ ดึง 'ต่างชาติ' ร่วมทุนพัฒนา ระดับกลาง-ล่างมากขึ้น คาดดันหน่วยเปิดใหม่ทั้งปีสูงถึง 5 หมื่นหน่วย

23 มิถุนายน 2565 - นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปี 2565 เป็นปีที่เห็นการกลับมาของตลาดคอนโดมิเนียมจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของตลาดคอนโดมิเนียมในไตรมาสแรกของปี สะท้อนถึงสัญญาณของผู้ประกอบการที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น จากเดิมที่มีการชะลอตัวในปีที่แล้ว

 

ไตรมาสแรกคอนโดฯเปิดเพิ่ม 347%

ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 อุปทานตลาดคอนมิเนียมในกรุงเทพมีจำนวนทั้งสิ้น 16,247 หน่วย จำนวนหน่วยขายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 347.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 อยู่ที่ 3,634 หน่วย) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 อยู่ที่ 11,252 หน่วย)  

จับตา \'ทุนต่างชาติ\'  ลงขัน \'คอนโด\'ไทย  ดันเปิดใหม่ 5 หมื่นหน่วย

โดยจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองอยู่ที่ร้อยละ 54 หรือ 8,711 หน่วย ในบริเวณรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) คิดเป็นอัตราส่วนที่ร้อยละ 46 ในส่วนของบริเวณศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) พบว่ายังไม่มีอุปทานเปิดตัวใหม่ในไตรมาสนี้ หากจำแนกคอนโดมิเนียมตามเกรดที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสนี้ มีคอนโดมิเนียมระดับเกรดบีมากที่สุดซึ่งคิดเป็นอัตราที่ร้อยละ 45 รองลงมาได้แก่ คอนโดมิเนียมระดับเกรดซี และคอนโดมิเนียมระดับเกรดเอ คิดเป็นอัตราร้อยละ 43 และ 12 ตามลำดับ โดยอุปทานที่เปิดขายใหม่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่สูงถึงร้อยละ 94 จากอุปทานที่เปิดขายทั้งหมด

จับตา \'ทุนต่างชาติ\'  ลงขัน \'คอนโด\'ไทย  ดันเปิดใหม่ 5 หมื่นหน่วย

ทุนต่างชาติแห่ร่วมทุนคอนโดไทย

ทั้งนี้ ในระยะที่เหลืออยู่ของปีนี้ คาดว่า การเปิดขายคอนโดมิเนียมใหม่จะมีแนวโน้มมากขึ้นกว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการคอนโดมิเนียมจากผู้ประกอบที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และมีการร่วมทุนบริษัทต่างชาติมากขึ้น (Joint Venture) 

 

โดยโครงการที่พัฒนาจะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีระดับราคากลาง – ล่าง ซึ่งจะเน้นขายให้กลับกลุ่มผู้ที่ซื้ออยู่อาศัยและนักลงทุนเป็นหลัก เพราะกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่คาดว่ามีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ภาวะการณ์แข่งขันของการเปิดตัวโครงการใหม่จะมากขึ้น ผู้ประกอบการต้องงัดกลยุทธ์ที่ให้สามารถปิดการขายกับลูกค้าได้เร็วที่สุด 

 

ปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการพัฒนาโครงการให้มีขนาดและการจัดรูปแบบห้องที่ใหญ่มากขึ้น รวมถึงในบางโครงการจะขายโครงการที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักอาศัยได้ซึ่งในตลาดยังมีน้อยอยู่ นอกจากนี้ผู้ประกอบการหลายเจ้าจะพัฒนาโครงการในลักษณะ Health and Wellness เพื่อให้รองรับกับการใช้ดำเนินชีวิตและคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยในโครงการทุก Generation 

 

คาดทั้งปีคอนโดใหม่ทะลัก 5 หมื่นหน่วย 

โดยคาดว่าคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้จะมีหน่วยเปิดขายอยู่ที่ประมาณ 50,000 หน่วย จากแผนเปิดตัวของผู้พัฒนาโครงการในปีนี้อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องคอยประเมินสถานการณ์ของต่างประเทศ ในเรื่องของสงครามรัสเซีย - ยูเครน การชะงักของอุปทานในภาคการผลิตและขนส่งทั้งจากนโยบาย zero covid และมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของรัสเซีย รวมไปถึงภาวะการณ์เงินตึงตัวจากนโยบายของธนาคารหลักของโลกที่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือลดสภาพคล่องในระบบ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและแน่นอนว่าจะกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียมด้วย 

จับตา \'ทุนต่างชาติ\'  ลงขัน \'คอนโด\'ไทย  ดันเปิดใหม่ 5 หมื่นหน่วย

แต่อย่างไรก็ตามกำลังซื้อในประเทศก็ยังมีการตอบรับที่กลับมาให้เห็น จากมาตรการและการยืดระยะเวลาการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่กระตุ้นการตัดสินใจแก่ผู้ซื้อ ซึ่งยังคงส่งเชิงบวกแก่ผู้ประกอบการ แม้จะไม่เทียบเท่ากับการที่มีชาวต่างชาติเข้ามาร่วมซื้อได้มากนักเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ช่วยให้ผู้ประกอบการได้มียอดรับรู้ที่ชัดเจนและประเมินสถานการ์ได้ดีขึ้น และหากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แน่นอนว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะกลับมาเป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวต่างมากขึ้น